โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 5464 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5464

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 5464 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 5464 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 683, 1366, 2732, 5464
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5464 ÷ 1=5464เหลือเศษ 0
5464 ÷ 2=2732เหลือเศษ 0
5464 ÷ 4=1366เหลือเศษ 0
5464 ÷ 8=683เหลือเศษ 0
5464 ÷ 683=8เหลือเศษ 0
5464 ÷ 1366=4เหลือเศษ 0
5464 ÷ 2732=2เหลือเศษ 0
5464 ÷ 5464=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5464
1 x 5464
2 x 2732
4 x 1366
8 x 683
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5464
1 + 2 + 4 + 8 + 683 + 1366 + 2732 + 5464 = 10260
ตัวประกอบของ 5464 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 683
การแยกตัวประกอบคืออะไร

5464 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

5464 = 2 x 2 x 2 x 683
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 5464 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5464 = 23 x 683
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 5464 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5464 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5464 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2732
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5464
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5464 แบบที่หนึ่ง
  • 5464
    • 8
      • 2
      • 4
        • 2
        • 2
    • 683

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5464 แบบที่สอง
  • 5464
    • 2
    • 2732
      • 2
      • 1366
        • 2
        • 683
ดังนั้น 5464 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5464 = 2 x 2 x 2 x 683
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5464 = 23 x 683 หรือ 23 x 6831

2. การแยกตัวประกอบของ 5464 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 5464 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5464 นั้นก็คือ 2, 683 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5464

2
)5464
2
)2732
2
)1366
683
)683
1
ดังนั้น 5464 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5464 = 2 x 2 x 2 x 683
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5464 = 23 x 683 หรือ 23 x 6831

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5464

1แยกตัวประกอบของ 5464 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 6831
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 683 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 = 8
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5464 มีทั้งหมด 8 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5464 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇