ตัวประกอบของ 5465 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5465
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5465 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5465 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 5465 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5465 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5465 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 5, 1093, 5465
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 5465 ÷ 1 | = | 5465 | เหลือเศษ 0 |
| 5465 ÷ 5 | = | 1093 | เหลือเศษ 0 |
| 5465 ÷ 1093 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 5465 ÷ 5465 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5465
| 1 x 5465 | = | 5465 |
| 5 x 1093 | = | 5465 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5465
1 + 5 + 1093 + 5465 = 6564
▶ ตัวประกอบของ 5465 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
5, 1093
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5465 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5465 = 5 x 1093
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5465 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5465 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5465 มา 1 คู่ เช่น 5 x 1093
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5465
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5465
- 5465
- 5
- 1093
ดังนั้น 5465 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5465 =
5 x 1093
2. การแยกตัวประกอบของ 5465 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5465 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5465 นั้นก็คือ 5, 1093 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5465
5)54651093)10931ดังนั้น 5465 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5465 = 5 x 1093วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5465
1แยกตัวประกอบของ 5465 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 109312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1093 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5465 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5465 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5465 นั้นก็คือ 5, 1093 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5465
5
)5465
1093
)1093
1
ดังนั้น 5465 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5465 = 5 x 1093
1แยกตัวประกอบของ 5465 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 10931
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1093 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5465 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5465 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇