โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 5454 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5454

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 5454 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 5454 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 9, 18, 27, 54, 101, 202, 303, 606, 909, 1818, 2727, 5454
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5454 ÷ 1=5454เหลือเศษ 0
5454 ÷ 2=2727เหลือเศษ 0
5454 ÷ 3=1818เหลือเศษ 0
5454 ÷ 6=909เหลือเศษ 0
5454 ÷ 9=606เหลือเศษ 0
5454 ÷ 18=303เหลือเศษ 0
5454 ÷ 27=202เหลือเศษ 0
5454 ÷ 54=101เหลือเศษ 0
5454 ÷ 101=54เหลือเศษ 0
5454 ÷ 202=27เหลือเศษ 0
5454 ÷ 303=18เหลือเศษ 0
5454 ÷ 606=9เหลือเศษ 0
5454 ÷ 909=6เหลือเศษ 0
5454 ÷ 1818=3เหลือเศษ 0
5454 ÷ 2727=2เหลือเศษ 0
5454 ÷ 5454=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5454
1 x 5454
2 x 2727
3 x 1818
6 x 909
9 x 606
18 x 303
27 x 202
54 x 101
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5454
1 + 2 + 3 + 6 + 9 + 18 + 27 + 54 + 101 + 202 + 303 + 606 + 909 + 1818 + 2727 + 5454 = 12240
ตัวประกอบของ 5454 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 101
การแยกตัวประกอบคืออะไร

5454 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

5454 = 2 x 3 x 3 x 3 x 101
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 5454 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5454 = 2 x 33 x 101
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 5454 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5454 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5454 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2727
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5454
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5454 แบบที่หนึ่ง
  • 5454
    • 54
      • 6
        • 2
        • 3
      • 9
        • 3
        • 3
    • 101

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5454 แบบที่สอง
  • 5454
    • 2
    • 2727
      • 3
      • 909
        • 3
        • 303
          • 3
          • 101
ดังนั้น 5454 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5454 = 2 x 3 x 3 x 3 x 101
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5454 = 2 x 33 x 101 หรือ 21 x 33 x 1011

2. การแยกตัวประกอบของ 5454 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 5454 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5454 นั้นก็คือ 2, 3, 101 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5454

2
)5454
3
)2727
3
)909
3
)303
101
)101
1
ดังนั้น 5454 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5454 = 2 x 3 x 3 x 3 x 101
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5454 = 2 x 33 x 101 หรือ 21 x 33 x 1011

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5454

1แยกตัวประกอบของ 5454 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 33 x 1011
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 101 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 4 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5454 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5454 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇