โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 462 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 462

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 462 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 462 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 7, 11, 14, 21, 22, 33, 42, 66, 77, 154, 231, 462
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
462 ÷ 1=462เหลือเศษ 0
462 ÷ 2=231เหลือเศษ 0
462 ÷ 3=154เหลือเศษ 0
462 ÷ 6=77เหลือเศษ 0
462 ÷ 7=66เหลือเศษ 0
462 ÷ 11=42เหลือเศษ 0
462 ÷ 14=33เหลือเศษ 0
462 ÷ 21=22เหลือเศษ 0
462 ÷ 22=21เหลือเศษ 0
462 ÷ 33=14เหลือเศษ 0
462 ÷ 42=11เหลือเศษ 0
462 ÷ 66=7เหลือเศษ 0
462 ÷ 77=6เหลือเศษ 0
462 ÷ 154=3เหลือเศษ 0
462 ÷ 231=2เหลือเศษ 0
462 ÷ 462=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 462
จำนวนสองจำนวนที่คูณกันได้ 462, ตัวประกอบของ 462
1 x 462
2 x 231
3 x 154
6 x 77
7 x 66
11 x 42
14 x 33
21 x 22
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 462
1 + 2 + 3 + 6 + 7 + 11 + 14 + 21 + 22 + 33 + 42 + 66 + 77 + 154 + 231 + 462 = 1152
ตัวประกอบของ 462 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 7, 11
การแยกตัวประกอบคืออะไร

462 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

462 = 2 x 3 x 7 x 11
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 462 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 462 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 462 มา 1 คู่ เช่น 2 x 231
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 462
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 462 แบบที่หนึ่ง
  • 462
    • 21
      • 3
      • 7
    • 22
      • 2
      • 11

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 462 แบบที่สอง
  • 462
    • 2
    • 231
      • 3
      • 77
        • 7
        • 11
ดังนั้น 462 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
462 = 2 x 3 x 7 x 11

2. การแยกตัวประกอบของ 462 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 462 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 462 นั้นก็คือ 2, 3, 7, 11 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 462

2
)462
3
)231
7
)77
11
)11
1
ดังนั้น 462 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
462 = 2 x 3 x 7 x 11

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 462

1แยกตัวประกอบของ 462 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 71 x 111
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 462 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 462 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇