ตัวประกอบของ 3227 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 3227
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 3227 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 3227 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 3227 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 3227 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 3227 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 7, 461, 3227
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
3227 ÷ 1 | = | 3227 | เหลือเศษ 0 |
3227 ÷ 7 | = | 461 | เหลือเศษ 0 |
3227 ÷ 461 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
3227 ÷ 3227 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 3227
1 x 3227 | = | 3227 |
7 x 461 | = | 3227 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 3227
1 + 7 + 461 + 3227 = 3696
▶ ตัวประกอบของ 3227 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
7, 461
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 3227 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3227 = 7 x 461
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 3227 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 3227 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 3227 มา 1 คู่ เช่น 7 x 461
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3227
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3227
- 3227
- 7
- 461
ดังนั้น 3227 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3227 =
7 x 461
2. การแยกตัวประกอบของ 3227 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 3227 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3227 นั้นก็คือ 7, 461 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3227
7)3227461)4611ดังนั้น 3227 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้3227 = 7 x 461วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 3227
1แยกตัวประกอบของ 3227 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 46112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 461 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3227 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 3227 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3227 นั้นก็คือ 7, 461 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3227
7
)3227
461
)461
1
ดังนั้น 3227 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3227 = 7 x 461
1แยกตัวประกอบของ 3227 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 4611
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 461 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3227 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 3227 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇