ตัวประกอบของ 2678 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 2678
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 2678 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 2678 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 2678 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 2678 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 2678 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 13, 26, 103, 206, 1339, 2678
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
2678 ÷ 1 | = | 2678 | เหลือเศษ 0 |
2678 ÷ 2 | = | 1339 | เหลือเศษ 0 |
2678 ÷ 13 | = | 206 | เหลือเศษ 0 |
2678 ÷ 26 | = | 103 | เหลือเศษ 0 |
2678 ÷ 103 | = | 26 | เหลือเศษ 0 |
2678 ÷ 206 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
2678 ÷ 1339 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
2678 ÷ 2678 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 2678
1 x 2678 | = | 2678 |
2 x 1339 | = | 2678 |
13 x 206 | = | 2678 |
26 x 103 | = | 2678 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 2678
1 + 2 + 13 + 26 + 103 + 206 + 1339 + 2678 = 4368
▶ ตัวประกอบของ 2678 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 13, 103
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 2678 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2678 = 2 x 13 x 103
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 2678 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 2678 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 2678 มา 1 คู่ เช่น 2 x 1339
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2678
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2678 แบบที่หนึ่ง
- 2678
- 26
- 2
- 13
- 103
- 26
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2678 แบบที่สอง
- 2678
- 2
- 1339
- 13
- 103
ดังนั้น 2678 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2678 =
2 x 13 x 103
2. การแยกตัวประกอบของ 2678 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 2678 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2678 นั้นก็คือ 2, 13, 103 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2678
2)267813)1339103)1031ดังนั้น 2678 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้2678 = 2 x 13 x 103วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 2678
1แยกตัวประกอบของ 2678 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 131 x 10312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 103 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2678 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 2678 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2678 นั้นก็คือ 2, 13, 103 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2678
2
)2678
13
)1339
103
)103
1
ดังนั้น 2678 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2678 = 2 x 13 x 103
1แยกตัวประกอบของ 2678 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 131 x 1031
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 103 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2678 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 2678 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇