ตัวประกอบของ 2675 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 2675
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 2675 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 2675 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 2675 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 2675 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 2675 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 5, 25, 107, 535, 2675
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
2675 ÷ 1 | = | 2675 | เหลือเศษ 0 |
2675 ÷ 5 | = | 535 | เหลือเศษ 0 |
2675 ÷ 25 | = | 107 | เหลือเศษ 0 |
2675 ÷ 107 | = | 25 | เหลือเศษ 0 |
2675 ÷ 535 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
2675 ÷ 2675 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 2675
1 x 2675 | = | 2675 |
5 x 535 | = | 2675 |
25 x 107 | = | 2675 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 2675
1 + 5 + 25 + 107 + 535 + 2675 = 3348
▶ ตัวประกอบของ 2675 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
5, 107
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 2675 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2675 = 5 x 5 x 107
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 2675 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
2675 = 52 x 107
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 2675 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
2675 = 52 x 107
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 2675 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 2675 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 2675 มา 1 คู่ เช่น 5 x 535
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2675
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2675 แบบที่หนึ่ง
- 2675
- 25
- 5
- 5
- 107
- 25
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2675 แบบที่สอง
- 2675
- 5
- 535
- 5
- 107
ดังนั้น 2675 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2675 =
5 x 5 x 107
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
2675 =
52 x 107 หรือ 52 x 1071
2. การแยกตัวประกอบของ 2675 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 2675 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2675 นั้นก็คือ 5, 107 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2675
5)26755)535107)1071ดังนั้น 2675 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้2675 = 5 x 5 x 107หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง2675 = 52 x 107 หรือ 52 x 1071วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 2675
1แยกตัวประกอบของ 2675 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 52 x 10712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 107 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2675 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 2675 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2675 นั้นก็คือ 5, 107 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2675
5
)2675
5
)535
107
)107
1
ดังนั้น 2675 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2675 = 5 x 5 x 107
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
2675 = 52 x 107 หรือ 52 x 1071
1แยกตัวประกอบของ 2675 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 52 x 1071
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 107 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2675 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 2675 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇