ตัวประกอบของ 26537 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26537
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26537 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26537 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 26537 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26537 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26537 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 7, 17, 119, 223, 1561, 3791, 26537
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26537 ÷ 1 | = | 26537 | เหลือเศษ 0 |
| 26537 ÷ 7 | = | 3791 | เหลือเศษ 0 |
| 26537 ÷ 17 | = | 1561 | เหลือเศษ 0 |
| 26537 ÷ 119 | = | 223 | เหลือเศษ 0 |
| 26537 ÷ 223 | = | 119 | เหลือเศษ 0 |
| 26537 ÷ 1561 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
| 26537 ÷ 3791 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
| 26537 ÷ 26537 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26537
| 1 x 26537 | = | 26537 |
| 7 x 3791 | = | 26537 |
| 17 x 1561 | = | 26537 |
| 119 x 223 | = | 26537 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26537
1 + 7 + 17 + 119 + 223 + 1561 + 3791 + 26537 = 32256
▶ ตัวประกอบของ 26537 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
7, 17, 223
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26537 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26537 = 7 x 17 x 223
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26537 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26537 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26537 มา 1 คู่ เช่น 7 x 3791
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26537
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26537 แบบที่หนึ่ง
- 26537
- 119
- 7
- 17
- 223
- 119
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26537 แบบที่สอง
- 26537
- 7
- 3791
- 17
- 223
ดังนั้น 26537 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26537 =
7 x 17 x 223
2. การแยกตัวประกอบของ 26537 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26537 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26537 นั้นก็คือ 7, 17, 223 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26537
7)2653717)3791223)2231ดังนั้น 26537 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26537 = 7 x 17 x 223วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26537
1แยกตัวประกอบของ 26537 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 171 x 22312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 223 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26537 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26537 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26537 นั้นก็คือ 7, 17, 223 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26537
7
)26537
17
)3791
223
)223
1
ดังนั้น 26537 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26537 = 7 x 17 x 223
1แยกตัวประกอบของ 26537 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 171 x 2231
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 223 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26537 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26537 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
