ตัวประกอบของ 26547 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26547
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26547 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26547 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 26547 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26547 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26547 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 3, 8849, 26547
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26547 ÷ 1 | = | 26547 | เหลือเศษ 0 |
| 26547 ÷ 3 | = | 8849 | เหลือเศษ 0 |
| 26547 ÷ 8849 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 26547 ÷ 26547 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26547
| 1 x 26547 | = | 26547 |
| 3 x 8849 | = | 26547 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26547
1 + 3 + 8849 + 26547 = 35400
▶ ตัวประกอบของ 26547 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 8849
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26547 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26547 = 3 x 8849
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26547 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26547 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26547 มา 1 คู่ เช่น 3 x 8849
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26547
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26547
- 26547
- 3
- 8849
ดังนั้น 26547 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26547 =
3 x 8849
2. การแยกตัวประกอบของ 26547 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26547 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26547 นั้นก็คือ 3, 8849 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26547
3)265478849)88491ดังนั้น 26547 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26547 = 3 x 8849วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26547
1แยกตัวประกอบของ 26547 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 884912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 8849 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26547 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26547 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26547 นั้นก็คือ 3, 8849 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26547
3
)26547
8849
)8849
1
ดังนั้น 26547 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26547 = 3 x 8849
1แยกตัวประกอบของ 26547 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 88491
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 8849 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26547 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26547 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
