ตัวประกอบของ 26065 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26065
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26065 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26065 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 26065 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26065 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26065 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 5, 13, 65, 401, 2005, 5213, 26065
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26065 ÷ 1 | = | 26065 | เหลือเศษ 0 |
| 26065 ÷ 5 | = | 5213 | เหลือเศษ 0 |
| 26065 ÷ 13 | = | 2005 | เหลือเศษ 0 |
| 26065 ÷ 65 | = | 401 | เหลือเศษ 0 |
| 26065 ÷ 401 | = | 65 | เหลือเศษ 0 |
| 26065 ÷ 2005 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
| 26065 ÷ 5213 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 26065 ÷ 26065 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26065
| 1 x 26065 | = | 26065 |
| 5 x 5213 | = | 26065 |
| 13 x 2005 | = | 26065 |
| 65 x 401 | = | 26065 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26065
1 + 5 + 13 + 65 + 401 + 2005 + 5213 + 26065 = 33768
▶ ตัวประกอบของ 26065 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
5, 13, 401
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26065 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26065 = 5 x 13 x 401
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26065 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26065 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26065 มา 1 คู่ เช่น 5 x 5213
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26065
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26065 แบบที่หนึ่ง
- 26065
- 65
- 5
- 13
- 401
- 65
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26065 แบบที่สอง
- 26065
- 5
- 5213
- 13
- 401
ดังนั้น 26065 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26065 =
5 x 13 x 401
2. การแยกตัวประกอบของ 26065 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26065 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26065 นั้นก็คือ 5, 13, 401 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26065
5)2606513)5213401)4011ดังนั้น 26065 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26065 = 5 x 13 x 401วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26065
1แยกตัวประกอบของ 26065 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 131 x 40112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 401 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26065 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26065 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26065 นั้นก็คือ 5, 13, 401 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26065
5
)26065
13
)5213
401
)401
1
ดังนั้น 26065 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26065 = 5 x 13 x 401
1แยกตัวประกอบของ 26065 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 131 x 4011
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 401 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26065 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26065 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
