ตัวประกอบของ 26063 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26063
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26063 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26063 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 26063 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26063 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26063 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 67, 389, 26063
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26063 ÷ 1 | = | 26063 | เหลือเศษ 0 |
| 26063 ÷ 67 | = | 389 | เหลือเศษ 0 |
| 26063 ÷ 389 | = | 67 | เหลือเศษ 0 |
| 26063 ÷ 26063 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26063
| 1 x 26063 | = | 26063 |
| 67 x 389 | = | 26063 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26063
1 + 67 + 389 + 26063 = 26520
▶ ตัวประกอบของ 26063 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
67, 389
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26063 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26063 = 67 x 389
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26063 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26063 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26063 มา 1 คู่ เช่น 67 x 389
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26063
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26063
- 26063
- 67
- 389
ดังนั้น 26063 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26063 =
67 x 389
2. การแยกตัวประกอบของ 26063 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26063 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26063 นั้นก็คือ 67, 389 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26063
67)26063389)3891ดังนั้น 26063 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26063 = 67 x 389วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26063
1แยกตัวประกอบของ 26063 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 671 x 38912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 67 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 389 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26063 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26063 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26063 นั้นก็คือ 67, 389 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26063
67
)26063
389
)389
1
ดังนั้น 26063 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26063 = 67 x 389
1แยกตัวประกอบของ 26063 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 671 x 3891
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 67 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 389 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26063 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26063 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
