ตัวประกอบของ 26057 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26057
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26057 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26057 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 26057 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26057 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26057 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 71, 367, 26057
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26057 ÷ 1 | = | 26057 | เหลือเศษ 0 |
| 26057 ÷ 71 | = | 367 | เหลือเศษ 0 |
| 26057 ÷ 367 | = | 71 | เหลือเศษ 0 |
| 26057 ÷ 26057 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26057
| 1 x 26057 | = | 26057 |
| 71 x 367 | = | 26057 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26057
1 + 71 + 367 + 26057 = 26496
▶ ตัวประกอบของ 26057 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
71, 367
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26057 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26057 = 71 x 367
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26057 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26057 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26057 มา 1 คู่ เช่น 71 x 367
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26057
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26057
- 26057
- 71
- 367
ดังนั้น 26057 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26057 =
71 x 367
2. การแยกตัวประกอบของ 26057 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26057 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26057 นั้นก็คือ 71, 367 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26057
71)26057367)3671ดังนั้น 26057 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26057 = 71 x 367วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26057
1แยกตัวประกอบของ 26057 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 711 x 36712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 71 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 367 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26057 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26057 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26057 นั้นก็คือ 71, 367 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26057
71
)26057
367
)367
1
ดังนั้น 26057 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26057 = 71 x 367
1แยกตัวประกอบของ 26057 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 711 x 3671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 71 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 367 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26057 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26057 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
