โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 26056 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26056

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 26056 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 26056 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 3257, 6514, 13028, 26056
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
26056 ÷ 1=26056เหลือเศษ 0
26056 ÷ 2=13028เหลือเศษ 0
26056 ÷ 4=6514เหลือเศษ 0
26056 ÷ 8=3257เหลือเศษ 0
26056 ÷ 3257=8เหลือเศษ 0
26056 ÷ 6514=4เหลือเศษ 0
26056 ÷ 13028=2เหลือเศษ 0
26056 ÷ 26056=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26056
1 x 26056
2 x 13028
4 x 6514
8 x 3257
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26056
1 + 2 + 4 + 8 + 3257 + 6514 + 13028 + 26056 = 48870
ตัวประกอบของ 26056 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 3257
การแยกตัวประกอบคืออะไร

26056 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

26056 = 2 x 2 x 2 x 3257
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26056 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26056 = 23 x 3257
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 26056 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26056 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26056 มา 1 คู่ เช่น 2 x 13028
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26056
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26056 แบบที่หนึ่ง
  • 26056
    • 8
      • 2
      • 4
        • 2
        • 2
    • 3257

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26056 แบบที่สอง
  • 26056
    • 2
    • 13028
      • 2
      • 6514
        • 2
        • 3257
ดังนั้น 26056 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26056 = 2 x 2 x 2 x 3257
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26056 = 23 x 3257 หรือ 23 x 32571

2. การแยกตัวประกอบของ 26056 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 26056 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26056 นั้นก็คือ 2, 3257 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26056

2
)26056
2
)13028
2
)6514
3257
)3257
1
ดังนั้น 26056 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26056 = 2 x 2 x 2 x 3257
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26056 = 23 x 3257 หรือ 23 x 32571

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26056

1แยกตัวประกอบของ 26056 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 32571
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 3257 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 = 8
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26056 มีทั้งหมด 8 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26056 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇