ตัวประกอบของ 26039 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26039
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26039 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26039 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 26039 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26039 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26039 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 13, 2003, 26039
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26039 ÷ 1 | = | 26039 | เหลือเศษ 0 |
| 26039 ÷ 13 | = | 2003 | เหลือเศษ 0 |
| 26039 ÷ 2003 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
| 26039 ÷ 26039 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26039
| 1 x 26039 | = | 26039 |
| 13 x 2003 | = | 26039 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26039
1 + 13 + 2003 + 26039 = 28056
▶ ตัวประกอบของ 26039 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
13, 2003
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26039 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26039 = 13 x 2003
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26039 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26039 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26039 มา 1 คู่ เช่น 13 x 2003
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26039
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26039
- 26039
- 13
- 2003
ดังนั้น 26039 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26039 =
13 x 2003
2. การแยกตัวประกอบของ 26039 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26039 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26039 นั้นก็คือ 13, 2003 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26039
13)260392003)20031ดังนั้น 26039 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26039 = 13 x 2003วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26039
1แยกตัวประกอบของ 26039 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 131 x 200312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2003 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26039 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26039 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26039 นั้นก็คือ 13, 2003 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26039
13
)26039
2003
)2003
1
ดังนั้น 26039 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26039 = 13 x 2003
1แยกตัวประกอบของ 26039 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 131 x 20031
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2003 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26039 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26039 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
