ตัวประกอบของ 26033 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26033
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26033 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26033 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 26033 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26033 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26033 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 7, 3719, 26033
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26033 ÷ 1 | = | 26033 | เหลือเศษ 0 |
| 26033 ÷ 7 | = | 3719 | เหลือเศษ 0 |
| 26033 ÷ 3719 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
| 26033 ÷ 26033 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26033
| 1 x 26033 | = | 26033 |
| 7 x 3719 | = | 26033 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26033
1 + 7 + 3719 + 26033 = 29760
▶ ตัวประกอบของ 26033 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
7, 3719
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26033 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26033 = 7 x 3719
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26033 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26033 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26033 มา 1 คู่ เช่น 7 x 3719
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26033
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26033
- 26033
- 7
- 3719
ดังนั้น 26033 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26033 =
7 x 3719
2. การแยกตัวประกอบของ 26033 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26033 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26033 นั้นก็คือ 7, 3719 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26033
7)260333719)37191ดังนั้น 26033 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26033 = 7 x 3719วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26033
1แยกตัวประกอบของ 26033 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 371912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3719 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26033 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26033 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26033 นั้นก็คือ 7, 3719 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26033
7
)26033
3719
)3719
1
ดังนั้น 26033 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26033 = 7 x 3719
1แยกตัวประกอบของ 26033 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 37191
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3719 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26033 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26033 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇