ตัวประกอบของ 26035 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26035
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26035 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26035 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 26035 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26035 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26035 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 5, 41, 127, 205, 635, 5207, 26035
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26035 ÷ 1 | = | 26035 | เหลือเศษ 0 |
| 26035 ÷ 5 | = | 5207 | เหลือเศษ 0 |
| 26035 ÷ 41 | = | 635 | เหลือเศษ 0 |
| 26035 ÷ 127 | = | 205 | เหลือเศษ 0 |
| 26035 ÷ 205 | = | 127 | เหลือเศษ 0 |
| 26035 ÷ 635 | = | 41 | เหลือเศษ 0 |
| 26035 ÷ 5207 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 26035 ÷ 26035 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26035
| 1 x 26035 | = | 26035 |
| 5 x 5207 | = | 26035 |
| 41 x 635 | = | 26035 |
| 127 x 205 | = | 26035 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26035
1 + 5 + 41 + 127 + 205 + 635 + 5207 + 26035 = 32256
▶ ตัวประกอบของ 26035 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
5, 41, 127
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26035 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26035 = 5 x 41 x 127
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26035 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26035 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26035 มา 1 คู่ เช่น 5 x 5207
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26035
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26035 แบบที่หนึ่ง
- 26035
- 127
- 205
- 5
- 41
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26035 แบบที่สอง
- 26035
- 5
- 5207
- 41
- 127
ดังนั้น 26035 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26035 =
5 x 41 x 127
2. การแยกตัวประกอบของ 26035 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26035 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26035 นั้นก็คือ 5, 41, 127 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26035
5)2603541)5207127)1271ดังนั้น 26035 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26035 = 5 x 41 x 127วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26035
1แยกตัวประกอบของ 26035 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 411 x 12712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 41 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 127 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26035 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26035 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26035 นั้นก็คือ 5, 41, 127 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26035
5
)26035
41
)5207
127
)127
1
ดังนั้น 26035 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26035 = 5 x 41 x 127
1แยกตัวประกอบของ 26035 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 411 x 1271
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 41 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 127 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26035 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26035 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
