ตัวประกอบของ 26034 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26034
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26034 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26034 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 26034 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26034 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26034 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 4339, 8678, 13017, 26034
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26034 ÷ 1 | = | 26034 | เหลือเศษ 0 |
| 26034 ÷ 2 | = | 13017 | เหลือเศษ 0 |
| 26034 ÷ 3 | = | 8678 | เหลือเศษ 0 |
| 26034 ÷ 6 | = | 4339 | เหลือเศษ 0 |
| 26034 ÷ 4339 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
| 26034 ÷ 8678 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 26034 ÷ 13017 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 26034 ÷ 26034 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26034
| 1 x 26034 | = | 26034 |
| 2 x 13017 | = | 26034 |
| 3 x 8678 | = | 26034 |
| 6 x 4339 | = | 26034 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26034
1 + 2 + 3 + 6 + 4339 + 8678 + 13017 + 26034 = 52080
▶ ตัวประกอบของ 26034 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 4339
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26034 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26034 = 2 x 3 x 4339
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26034 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26034 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26034 มา 1 คู่ เช่น 2 x 13017
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26034
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26034 แบบที่หนึ่ง
- 26034
- 6
- 2
- 3
- 4339
- 6
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26034 แบบที่สอง
- 26034
- 2
- 13017
- 3
- 4339
ดังนั้น 26034 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26034 =
2 x 3 x 4339
2. การแยกตัวประกอบของ 26034 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26034 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26034 นั้นก็คือ 2, 3, 4339 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26034
2)260343)130174339)43391ดังนั้น 26034 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26034 = 2 x 3 x 4339วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26034
1แยกตัวประกอบของ 26034 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 433912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 4339 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26034 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26034 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26034 นั้นก็คือ 2, 3, 4339 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26034
2
)26034
3
)13017
4339
)4339
1
ดังนั้น 26034 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26034 = 2 x 3 x 4339
1แยกตัวประกอบของ 26034 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 43391
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 4339 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26034 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26034 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
