โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 25866 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25866

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 25866 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 25866 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 9, 18, 27, 54, 479, 958, 1437, 2874, 4311, 8622, 12933, 25866
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25866 ÷ 1=25866เหลือเศษ 0
25866 ÷ 2=12933เหลือเศษ 0
25866 ÷ 3=8622เหลือเศษ 0
25866 ÷ 6=4311เหลือเศษ 0
25866 ÷ 9=2874เหลือเศษ 0
25866 ÷ 18=1437เหลือเศษ 0
25866 ÷ 27=958เหลือเศษ 0
25866 ÷ 54=479เหลือเศษ 0
25866 ÷ 479=54เหลือเศษ 0
25866 ÷ 958=27เหลือเศษ 0
25866 ÷ 1437=18เหลือเศษ 0
25866 ÷ 2874=9เหลือเศษ 0
25866 ÷ 4311=6เหลือเศษ 0
25866 ÷ 8622=3เหลือเศษ 0
25866 ÷ 12933=2เหลือเศษ 0
25866 ÷ 25866=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25866
1 x 25866
2 x 12933
3 x 8622
6 x 4311
9 x 2874
18 x 1437
27 x 958
54 x 479
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25866
1 + 2 + 3 + 6 + 9 + 18 + 27 + 54 + 479 + 958 + 1437 + 2874 + 4311 + 8622 + 12933 + 25866 = 57600
ตัวประกอบของ 25866 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 479
การแยกตัวประกอบคืออะไร

25866 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

25866 = 2 x 3 x 3 x 3 x 479
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25866 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25866 = 2 x 33 x 479
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 25866 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25866 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25866 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12933
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25866
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25866 แบบที่หนึ่ง
  • 25866
    • 54
      • 6
        • 2
        • 3
      • 9
        • 3
        • 3
    • 479

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25866 แบบที่สอง
  • 25866
    • 2
    • 12933
      • 3
      • 4311
        • 3
        • 1437
          • 3
          • 479
ดังนั้น 25866 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25866 = 2 x 3 x 3 x 3 x 479
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25866 = 2 x 33 x 479 หรือ 21 x 33 x 4791

2. การแยกตัวประกอบของ 25866 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 25866 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25866 นั้นก็คือ 2, 3, 479 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25866

2
)25866
3
)12933
3
)4311
3
)1437
479
)479
1
ดังนั้น 25866 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25866 = 2 x 3 x 3 x 3 x 479
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25866 = 2 x 33 x 479 หรือ 21 x 33 x 4791

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25866

1แยกตัวประกอบของ 25866 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 33 x 4791
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 479 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 4 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25866 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25866 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇