โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 25324 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25324

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 25324 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 25324 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 4, 13, 26, 52, 487, 974, 1948, 6331, 12662, 25324
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25324 ÷ 1=25324เหลือเศษ 0
25324 ÷ 2=12662เหลือเศษ 0
25324 ÷ 4=6331เหลือเศษ 0
25324 ÷ 13=1948เหลือเศษ 0
25324 ÷ 26=974เหลือเศษ 0
25324 ÷ 52=487เหลือเศษ 0
25324 ÷ 487=52เหลือเศษ 0
25324 ÷ 974=26เหลือเศษ 0
25324 ÷ 1948=13เหลือเศษ 0
25324 ÷ 6331=4เหลือเศษ 0
25324 ÷ 12662=2เหลือเศษ 0
25324 ÷ 25324=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25324
1 x 25324
2 x 12662
4 x 6331
13 x 1948
26 x 974
52 x 487
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25324
1 + 2 + 4 + 13 + 26 + 52 + 487 + 974 + 1948 + 6331 + 12662 + 25324 = 47824
ตัวประกอบของ 25324 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 13, 487
การแยกตัวประกอบคืออะไร

25324 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

25324 = 2 x 2 x 13 x 487
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25324 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25324 = 22 x 13 x 487
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 25324 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25324 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25324 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12662
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25324
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25324 แบบที่หนึ่ง
  • 25324
    • 52
      • 4
        • 2
        • 2
      • 13
    • 487

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25324 แบบที่สอง
  • 25324
    • 2
    • 12662
      • 2
      • 6331
        • 13
        • 487
ดังนั้น 25324 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25324 = 2 x 2 x 13 x 487
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25324 = 22 x 13 x 487 หรือ 22 x 131 x 4871

2. การแยกตัวประกอบของ 25324 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 25324 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25324 นั้นก็คือ 2, 13, 487 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25324

2
)25324
2
)12662
13
)6331
487
)487
1
ดังนั้น 25324 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25324 = 2 x 2 x 13 x 487
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25324 = 22 x 13 x 487 หรือ 22 x 131 x 4871

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25324

1แยกตัวประกอบของ 25324 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 131 x 4871
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 487 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25324 มีทั้งหมด 12 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25324 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇