ตัวประกอบของ 25002 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25002
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25002 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25002 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25002 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25002 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25002 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 9, 18, 27, 54, 463, 926, 1389, 2778, 4167, 8334, 12501, 25002
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25002 ÷ 1 | = | 25002 | เหลือเศษ 0 |
25002 ÷ 2 | = | 12501 | เหลือเศษ 0 |
25002 ÷ 3 | = | 8334 | เหลือเศษ 0 |
25002 ÷ 6 | = | 4167 | เหลือเศษ 0 |
25002 ÷ 9 | = | 2778 | เหลือเศษ 0 |
25002 ÷ 18 | = | 1389 | เหลือเศษ 0 |
25002 ÷ 27 | = | 926 | เหลือเศษ 0 |
25002 ÷ 54 | = | 463 | เหลือเศษ 0 |
25002 ÷ 463 | = | 54 | เหลือเศษ 0 |
25002 ÷ 926 | = | 27 | เหลือเศษ 0 |
25002 ÷ 1389 | = | 18 | เหลือเศษ 0 |
25002 ÷ 2778 | = | 9 | เหลือเศษ 0 |
25002 ÷ 4167 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
25002 ÷ 8334 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
25002 ÷ 12501 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
25002 ÷ 25002 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25002
1 x 25002 | = | 25002 |
2 x 12501 | = | 25002 |
3 x 8334 | = | 25002 |
6 x 4167 | = | 25002 |
9 x 2778 | = | 25002 |
18 x 1389 | = | 25002 |
27 x 926 | = | 25002 |
54 x 463 | = | 25002 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25002
1 + 2 + 3 + 6 + 9 + 18 + 27 + 54 + 463 + 926 + 1389 + 2778 + 4167 + 8334 + 12501 + 25002 = 55680
▶ ตัวประกอบของ 25002 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 463
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25002 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25002 = 2 x 3 x 3 x 3 x 463
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25002 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25002 = 2 x 33 x 463
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25002 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25002 = 2 x 33 x 463
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25002 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25002 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25002 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12501
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25002
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25002 แบบที่หนึ่ง
- 25002
- 54
- 6
- 2
- 3
- 9
- 3
- 3
- 6
- 463
- 54
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25002 แบบที่สอง
- 25002
- 2
- 12501
- 3
- 4167
- 3
- 1389
- 3
- 463
ดังนั้น 25002 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25002 =
2 x 3 x 3 x 3 x 463
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25002 =
2 x 33 x 463 หรือ 21 x 33 x 4631
2. การแยกตัวประกอบของ 25002 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25002 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25002 นั้นก็คือ 2, 3, 463 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25002
2)250023)125013)41673)1389463)4631ดังนั้น 25002 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25002 = 2 x 3 x 3 x 3 x 463หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง25002 = 2 x 33 x 463 หรือ 21 x 33 x 4631วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25002
1แยกตัวประกอบของ 25002 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 33 x 46312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
- 👉 463 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 4 x 2 = 16✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25002 มีทั้งหมด 16 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25002 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25002 นั้นก็คือ 2, 3, 463 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25002
2
)25002
3
)12501
3
)4167
3
)1389
463
)463
1
ดังนั้น 25002 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25002 = 2 x 3 x 3 x 3 x 463
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25002 = 2 x 33 x 463 หรือ 21 x 33 x 4631
1แยกตัวประกอบของ 25002 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 33 x 4631
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
- 👉 463 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 4 x 2 = 16✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25002 มีทั้งหมด 16 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25002 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇