ตัวประกอบของ 25007 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25007
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25007 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25007 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 25007 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25007 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25007 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 17, 1471, 25007
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 25007 ÷ 1 | = | 25007 | เหลือเศษ 0 |
| 25007 ÷ 17 | = | 1471 | เหลือเศษ 0 |
| 25007 ÷ 1471 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
| 25007 ÷ 25007 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25007
| 1 x 25007 | = | 25007 |
| 17 x 1471 | = | 25007 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25007
1 + 17 + 1471 + 25007 = 26496
▶ ตัวประกอบของ 25007 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
17, 1471
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25007 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25007 = 17 x 1471
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25007 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25007 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25007 มา 1 คู่ เช่น 17 x 1471
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25007
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25007
- 25007
- 17
- 1471
ดังนั้น 25007 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25007 =
17 x 1471
2. การแยกตัวประกอบของ 25007 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25007 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25007 นั้นก็คือ 17, 1471 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25007
17)250071471)14711ดังนั้น 25007 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25007 = 17 x 1471วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25007
1แยกตัวประกอบของ 25007 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 171 x 147112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1471 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25007 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25007 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25007 นั้นก็คือ 17, 1471 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25007
17
)25007
1471
)1471
1
ดังนั้น 25007 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25007 = 17 x 1471
1แยกตัวประกอบของ 25007 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 171 x 14711
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1471 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25007 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25007 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇