ตัวประกอบของ 25005 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25005
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25005 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25005 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25005 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25005 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25005 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 5, 15, 1667, 5001, 8335, 25005
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 25005 ÷ 1 | = | 25005 | เหลือเศษ 0 |
| 25005 ÷ 3 | = | 8335 | เหลือเศษ 0 |
| 25005 ÷ 5 | = | 5001 | เหลือเศษ 0 |
| 25005 ÷ 15 | = | 1667 | เหลือเศษ 0 |
| 25005 ÷ 1667 | = | 15 | เหลือเศษ 0 |
| 25005 ÷ 5001 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 25005 ÷ 8335 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 25005 ÷ 25005 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25005
| 1 x 25005 | = | 25005 |
| 3 x 8335 | = | 25005 |
| 5 x 5001 | = | 25005 |
| 15 x 1667 | = | 25005 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25005
1 + 3 + 5 + 15 + 1667 + 5001 + 8335 + 25005 = 40032
▶ ตัวประกอบของ 25005 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 5, 1667
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25005 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25005 = 3 x 5 x 1667
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25005 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25005 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25005 มา 1 คู่ เช่น 3 x 8335
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25005
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25005 แบบที่หนึ่ง
- 25005
- 15
- 3
- 5
- 1667
- 15
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25005 แบบที่สอง
- 25005
- 3
- 8335
- 5
- 1667
ดังนั้น 25005 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25005 =
3 x 5 x 1667
2. การแยกตัวประกอบของ 25005 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25005 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25005 นั้นก็คือ 3, 5, 1667 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25005
3)250055)83351667)16671ดังนั้น 25005 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25005 = 3 x 5 x 1667วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25005
1แยกตัวประกอบของ 25005 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 51 x 166712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1667 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25005 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25005 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25005 นั้นก็คือ 3, 5, 1667 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25005
3
)25005
5
)8335
1667
)1667
1
ดังนั้น 25005 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25005 = 3 x 5 x 1667
1แยกตัวประกอบของ 25005 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 51 x 16671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1667 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25005 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25005 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇