ตัวประกอบของ 24947 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 24947
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 24947 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 24947 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 24947 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 24947 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 24947 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 13, 19, 101, 247, 1313, 1919, 24947
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
24947 ÷ 1 | = | 24947 | เหลือเศษ 0 |
24947 ÷ 13 | = | 1919 | เหลือเศษ 0 |
24947 ÷ 19 | = | 1313 | เหลือเศษ 0 |
24947 ÷ 101 | = | 247 | เหลือเศษ 0 |
24947 ÷ 247 | = | 101 | เหลือเศษ 0 |
24947 ÷ 1313 | = | 19 | เหลือเศษ 0 |
24947 ÷ 1919 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
24947 ÷ 24947 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 24947
1 x 24947 | = | 24947 |
13 x 1919 | = | 24947 |
19 x 1313 | = | 24947 |
101 x 247 | = | 24947 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 24947
1 + 13 + 19 + 101 + 247 + 1313 + 1919 + 24947 = 28560
▶ ตัวประกอบของ 24947 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
13, 19, 101
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 24947 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
24947 = 13 x 19 x 101
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 24947 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 24947 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 24947 มา 1 คู่ เช่น 13 x 1919
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 24947
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 24947 แบบที่หนึ่ง
- 24947
- 101
- 247
- 13
- 19
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 24947 แบบที่สอง
- 24947
- 13
- 1919
- 19
- 101
ดังนั้น 24947 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
24947 =
13 x 19 x 101
2. การแยกตัวประกอบของ 24947 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 24947 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 24947 นั้นก็คือ 13, 19, 101 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 24947
13)2494719)1919101)1011ดังนั้น 24947 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้24947 = 13 x 19 x 101วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 24947
1แยกตัวประกอบของ 24947 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 131 x 191 x 10112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 101 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 24947 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 24947 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 24947 นั้นก็คือ 13, 19, 101 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 24947
13
)24947
19
)1919
101
)101
1
ดังนั้น 24947 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
24947 = 13 x 19 x 101
1แยกตัวประกอบของ 24947 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 131 x 191 x 1011
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 101 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 24947 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 24947 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇