ตัวประกอบของ 17686 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 17686
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 17686 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 17686 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 17686 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 17686 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 17686 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 37, 74, 239, 478, 8843, 17686
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 17686 ÷ 1 | = | 17686 | เหลือเศษ 0 |
| 17686 ÷ 2 | = | 8843 | เหลือเศษ 0 |
| 17686 ÷ 37 | = | 478 | เหลือเศษ 0 |
| 17686 ÷ 74 | = | 239 | เหลือเศษ 0 |
| 17686 ÷ 239 | = | 74 | เหลือเศษ 0 |
| 17686 ÷ 478 | = | 37 | เหลือเศษ 0 |
| 17686 ÷ 8843 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 17686 ÷ 17686 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 17686
| 1 x 17686 | = | 17686 |
| 2 x 8843 | = | 17686 |
| 37 x 478 | = | 17686 |
| 74 x 239 | = | 17686 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 17686
1 + 2 + 37 + 74 + 239 + 478 + 8843 + 17686 = 27360
▶ ตัวประกอบของ 17686 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 37, 239
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 17686 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
17686 = 2 x 37 x 239
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 17686 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 17686 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 17686 มา 1 คู่ เช่น 2 x 8843
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 17686
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 17686 แบบที่หนึ่ง
- 17686
- 74
- 2
- 37
- 239
- 74
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 17686 แบบที่สอง
- 17686
- 2
- 8843
- 37
- 239
ดังนั้น 17686 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
17686 =
2 x 37 x 239
2. การแยกตัวประกอบของ 17686 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 17686 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 17686 นั้นก็คือ 2, 37, 239 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 17686
2)1768637)8843239)2391ดังนั้น 17686 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้17686 = 2 x 37 x 239วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 17686
1แยกตัวประกอบของ 17686 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 371 x 23912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 239 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 17686 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 17686 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 17686 นั้นก็คือ 2, 37, 239 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 17686
2
)17686
37
)8843
239
)239
1
ดังนั้น 17686 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
17686 = 2 x 37 x 239
1แยกตัวประกอบของ 17686 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 371 x 2391
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 239 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 17686 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 17686 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇