ตัวประกอบของ 17633 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 17633
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 17633 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 17633 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 17633 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 17633 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 17633 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 7, 11, 77, 229, 1603, 2519, 17633
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
17633 ÷ 1 | = | 17633 | เหลือเศษ 0 |
17633 ÷ 7 | = | 2519 | เหลือเศษ 0 |
17633 ÷ 11 | = | 1603 | เหลือเศษ 0 |
17633 ÷ 77 | = | 229 | เหลือเศษ 0 |
17633 ÷ 229 | = | 77 | เหลือเศษ 0 |
17633 ÷ 1603 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
17633 ÷ 2519 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
17633 ÷ 17633 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 17633
1 x 17633 | = | 17633 |
7 x 2519 | = | 17633 |
11 x 1603 | = | 17633 |
77 x 229 | = | 17633 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 17633
1 + 7 + 11 + 77 + 229 + 1603 + 2519 + 17633 = 22080
▶ ตัวประกอบของ 17633 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
7, 11, 229
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 17633 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
17633 = 7 x 11 x 229
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 17633 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 17633 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 17633 มา 1 คู่ เช่น 7 x 2519
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 17633
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 17633 แบบที่หนึ่ง
- 17633
- 77
- 7
- 11
- 229
- 77
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 17633 แบบที่สอง
- 17633
- 7
- 2519
- 11
- 229
ดังนั้น 17633 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
17633 =
7 x 11 x 229
2. การแยกตัวประกอบของ 17633 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 17633 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 17633 นั้นก็คือ 7, 11, 229 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 17633
7)1763311)2519229)2291ดังนั้น 17633 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้17633 = 7 x 11 x 229วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 17633
1แยกตัวประกอบของ 17633 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 111 x 22912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 229 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 17633 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 17633 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 17633 นั้นก็คือ 7, 11, 229 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 17633
7
)17633
11
)2519
229
)229
1
ดังนั้น 17633 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
17633 = 7 x 11 x 229
1แยกตัวประกอบของ 17633 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 111 x 2291
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 229 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 17633 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 17633 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇