ตัวประกอบของ 17605 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 17605
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 17605 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 17605 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 17605 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 17605 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 17605 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 5, 7, 35, 503, 2515, 3521, 17605
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
17605 ÷ 1 | = | 17605 | เหลือเศษ 0 |
17605 ÷ 5 | = | 3521 | เหลือเศษ 0 |
17605 ÷ 7 | = | 2515 | เหลือเศษ 0 |
17605 ÷ 35 | = | 503 | เหลือเศษ 0 |
17605 ÷ 503 | = | 35 | เหลือเศษ 0 |
17605 ÷ 2515 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
17605 ÷ 3521 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
17605 ÷ 17605 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 17605
1 x 17605 | = | 17605 |
5 x 3521 | = | 17605 |
7 x 2515 | = | 17605 |
35 x 503 | = | 17605 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 17605
1 + 5 + 7 + 35 + 503 + 2515 + 3521 + 17605 = 24192
▶ ตัวประกอบของ 17605 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
5, 7, 503
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 17605 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
17605 = 5 x 7 x 503
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 17605 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 17605 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 17605 มา 1 คู่ เช่น 5 x 3521
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 17605
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 17605 แบบที่หนึ่ง
- 17605
- 35
- 5
- 7
- 503
- 35
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 17605 แบบที่สอง
- 17605
- 5
- 3521
- 7
- 503
ดังนั้น 17605 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
17605 =
5 x 7 x 503
2. การแยกตัวประกอบของ 17605 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 17605 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 17605 นั้นก็คือ 5, 7, 503 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 17605
5)176057)3521503)5031ดังนั้น 17605 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้17605 = 5 x 7 x 503วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 17605
1แยกตัวประกอบของ 17605 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 71 x 50312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 503 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 17605 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 17605 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 17605 นั้นก็คือ 5, 7, 503 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 17605
5
)17605
7
)3521
503
)503
1
ดังนั้น 17605 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
17605 = 5 x 7 x 503
1แยกตัวประกอบของ 17605 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 71 x 5031
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 503 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 17605 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 17605 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇