ตัวประกอบของ 1363 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 1363
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 1363 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 1363 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 1363 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 1363 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 1363 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 29, 47, 1363
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
1363 ÷ 1 | = | 1363 | เหลือเศษ 0 |
1363 ÷ 29 | = | 47 | เหลือเศษ 0 |
1363 ÷ 47 | = | 29 | เหลือเศษ 0 |
1363 ÷ 1363 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 1363
1 x 1363 | = | 1363 |
29 x 47 | = | 1363 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 1363
1 + 29 + 47 + 1363 = 1440
▶ ตัวประกอบของ 1363 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
29, 47
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 1363 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1363 = 29 x 47
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 1363 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 1363 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 1363 มา 1 คู่ เช่น 29 x 47
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1363
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1363
- 1363
- 29
- 47
ดังนั้น 1363 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1363 =
29 x 47
2. การแยกตัวประกอบของ 1363 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 1363 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1363 นั้นก็คือ 29, 47 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1363
29)136347)471ดังนั้น 1363 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้1363 = 29 x 47วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 1363
1แยกตัวประกอบของ 1363 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 291 x 4712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1363 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 1363 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1363 นั้นก็คือ 29, 47 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1363
29
)1363
47
)47
1
ดังนั้น 1363 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1363 = 29 x 47
1แยกตัวประกอบของ 1363 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 291 x 471
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1363 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 1363 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇