ตัวประกอบของ 1359 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 1359
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 1359 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 1359 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 1359 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 1359 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 1359 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 3, 9, 151, 453, 1359
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
1359 ÷ 1 | = | 1359 | เหลือเศษ 0 |
1359 ÷ 3 | = | 453 | เหลือเศษ 0 |
1359 ÷ 9 | = | 151 | เหลือเศษ 0 |
1359 ÷ 151 | = | 9 | เหลือเศษ 0 |
1359 ÷ 453 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
1359 ÷ 1359 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 1359
1 x 1359 | = | 1359 |
3 x 453 | = | 1359 |
9 x 151 | = | 1359 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 1359
1 + 3 + 9 + 151 + 453 + 1359 = 1976
▶ ตัวประกอบของ 1359 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 151
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 1359 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1359 = 3 x 3 x 151
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 1359 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
1359 = 32 x 151
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 1359 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
1359 = 32 x 151
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 1359 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 1359 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 1359 มา 1 คู่ เช่น 3 x 453
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1359
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1359 แบบที่หนึ่ง
- 1359
- 9
- 3
- 3
- 151
- 9
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1359 แบบที่สอง
- 1359
- 3
- 453
- 3
- 151
ดังนั้น 1359 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1359 =
3 x 3 x 151
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
1359 =
32 x 151 หรือ 32 x 1511
2. การแยกตัวประกอบของ 1359 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 1359 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1359 นั้นก็คือ 3, 151 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1359
3)13593)453151)1511ดังนั้น 1359 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้1359 = 3 x 3 x 151หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง1359 = 32 x 151 หรือ 32 x 1511วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 1359
1แยกตัวประกอบของ 1359 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 15112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 151 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1359 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 1359 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1359 นั้นก็คือ 3, 151 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1359
3
)1359
3
)453
151
)151
1
ดังนั้น 1359 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1359 = 3 x 3 x 151
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
1359 = 32 x 151 หรือ 32 x 1511
1แยกตัวประกอบของ 1359 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 1511
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 151 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1359 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 1359 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇