ตัวประกอบของ 10286 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 10286
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 10286 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 10286 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 10286 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 10286 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 10286 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 37, 74, 139, 278, 5143, 10286
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
10286 ÷ 1 | = | 10286 | เหลือเศษ 0 |
10286 ÷ 2 | = | 5143 | เหลือเศษ 0 |
10286 ÷ 37 | = | 278 | เหลือเศษ 0 |
10286 ÷ 74 | = | 139 | เหลือเศษ 0 |
10286 ÷ 139 | = | 74 | เหลือเศษ 0 |
10286 ÷ 278 | = | 37 | เหลือเศษ 0 |
10286 ÷ 5143 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
10286 ÷ 10286 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 10286
1 x 10286 | = | 10286 |
2 x 5143 | = | 10286 |
37 x 278 | = | 10286 |
74 x 139 | = | 10286 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 10286
1 + 2 + 37 + 74 + 139 + 278 + 5143 + 10286 = 15960
▶ ตัวประกอบของ 10286 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 37, 139
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 10286 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10286 = 2 x 37 x 139
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 10286 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 10286 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 10286 มา 1 คู่ เช่น 2 x 5143
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10286
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10286 แบบที่หนึ่ง
- 10286
- 74
- 2
- 37
- 139
- 74
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10286 แบบที่สอง
- 10286
- 2
- 5143
- 37
- 139
ดังนั้น 10286 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10286 =
2 x 37 x 139
2. การแยกตัวประกอบของ 10286 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 10286 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10286 นั้นก็คือ 2, 37, 139 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10286
2)1028637)5143139)1391ดังนั้น 10286 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้10286 = 2 x 37 x 139วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 10286
1แยกตัวประกอบของ 10286 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 371 x 13912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 139 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10286 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 10286 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10286 นั้นก็คือ 2, 37, 139 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10286
2
)10286
37
)5143
139
)139
1
ดังนั้น 10286 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10286 = 2 x 37 x 139
1แยกตัวประกอบของ 10286 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 371 x 1391
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 139 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10286 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 10286 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇