ตัวประกอบของ 98484 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 98484
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 98484 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 98484 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 98484 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 98484 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 98484 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 12, 29, 58, 87, 116, 174, 283, 348, 566, 849, 1132, 1698, 3396, 8207, 16414, 24621, 32828, 49242, 98484
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 98484 ÷ 1 | = | 98484 | เหลือเศษ 0 |
| 98484 ÷ 2 | = | 49242 | เหลือเศษ 0 |
| 98484 ÷ 3 | = | 32828 | เหลือเศษ 0 |
| 98484 ÷ 4 | = | 24621 | เหลือเศษ 0 |
| 98484 ÷ 6 | = | 16414 | เหลือเศษ 0 |
| 98484 ÷ 12 | = | 8207 | เหลือเศษ 0 |
| 98484 ÷ 29 | = | 3396 | เหลือเศษ 0 |
| 98484 ÷ 58 | = | 1698 | เหลือเศษ 0 |
| 98484 ÷ 87 | = | 1132 | เหลือเศษ 0 |
| 98484 ÷ 116 | = | 849 | เหลือเศษ 0 |
| 98484 ÷ 174 | = | 566 | เหลือเศษ 0 |
| 98484 ÷ 283 | = | 348 | เหลือเศษ 0 |
| 98484 ÷ 348 | = | 283 | เหลือเศษ 0 |
| 98484 ÷ 566 | = | 174 | เหลือเศษ 0 |
| 98484 ÷ 849 | = | 116 | เหลือเศษ 0 |
| 98484 ÷ 1132 | = | 87 | เหลือเศษ 0 |
| 98484 ÷ 1698 | = | 58 | เหลือเศษ 0 |
| 98484 ÷ 3396 | = | 29 | เหลือเศษ 0 |
| 98484 ÷ 8207 | = | 12 | เหลือเศษ 0 |
| 98484 ÷ 16414 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
| 98484 ÷ 24621 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
| 98484 ÷ 32828 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 98484 ÷ 49242 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 98484 ÷ 98484 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 98484
| 1 x 98484 | = | 98484 |
| 2 x 49242 | = | 98484 |
| 3 x 32828 | = | 98484 |
| 4 x 24621 | = | 98484 |
| 6 x 16414 | = | 98484 |
| 12 x 8207 | = | 98484 |
| 29 x 3396 | = | 98484 |
| 58 x 1698 | = | 98484 |
| 87 x 1132 | = | 98484 |
| 116 x 849 | = | 98484 |
| 174 x 566 | = | 98484 |
| 283 x 348 | = | 98484 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 98484
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 12 + 29 + 58 + 87 + 116 + 174 + 283 + 348 + 566 + 849 + 1132 + 1698 + 3396 + 8207 + 16414 + 24621 + 32828 + 49242 + 98484 = 238560
▶ ตัวประกอบของ 98484 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 29, 283
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 98484 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
98484 = 2 x 2 x 3 x 29 x 283
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 98484 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
98484 = 22 x 3 x 29 x 283
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 98484 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
98484 = 22 x 3 x 29 x 283
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 98484 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 98484 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 98484 มา 1 คู่ เช่น 2 x 49242
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 98484
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 98484 แบบที่หนึ่ง
- 98484
- 283
- 348
- 12
- 3
- 4
- 2
- 2
- 29
- 12
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 98484 แบบที่สอง
- 98484
- 2
- 49242
- 2
- 24621
- 3
- 8207
- 29
- 283
ดังนั้น 98484 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
98484 =
2 x 2 x 3 x 29 x 283
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
98484 =
22 x 3 x 29 x 283 หรือ 22 x 31 x 291 x 2831
2. การแยกตัวประกอบของ 98484 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 98484 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 98484 นั้นก็คือ 2, 3, 29, 283 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 98484
2)984842)492423)2462129)8207283)2831ดังนั้น 98484 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้98484 = 2 x 2 x 3 x 29 x 283หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง98484 = 22 x 3 x 29 x 283 หรือ 22 x 31 x 291 x 2831วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 98484
1แยกตัวประกอบของ 98484 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 31 x 291 x 28312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 283 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 x 2 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 98484 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 98484 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 98484 นั้นก็คือ 2, 3, 29, 283 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 98484
2
)98484
2
)49242
3
)24621
29
)8207
283
)283
1
ดังนั้น 98484 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
98484 = 2 x 2 x 3 x 29 x 283
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
98484 = 22 x 3 x 29 x 283 หรือ 22 x 31 x 291 x 2831
1แยกตัวประกอบของ 98484 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 31 x 291 x 2831
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 283 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 x 2 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 98484 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 98484 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇