โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 98488 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 98488

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 98488 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 98488 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 13, 26, 52, 104, 947, 1894, 3788, 7576, 12311, 24622, 49244, 98488
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
98488 ÷ 1=98488เหลือเศษ 0
98488 ÷ 2=49244เหลือเศษ 0
98488 ÷ 4=24622เหลือเศษ 0
98488 ÷ 8=12311เหลือเศษ 0
98488 ÷ 13=7576เหลือเศษ 0
98488 ÷ 26=3788เหลือเศษ 0
98488 ÷ 52=1894เหลือเศษ 0
98488 ÷ 104=947เหลือเศษ 0
98488 ÷ 947=104เหลือเศษ 0
98488 ÷ 1894=52เหลือเศษ 0
98488 ÷ 3788=26เหลือเศษ 0
98488 ÷ 7576=13เหลือเศษ 0
98488 ÷ 12311=8เหลือเศษ 0
98488 ÷ 24622=4เหลือเศษ 0
98488 ÷ 49244=2เหลือเศษ 0
98488 ÷ 98488=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 98488
1 x 98488
2 x 49244
4 x 24622
8 x 12311
13 x 7576
26 x 3788
52 x 1894
104 x 947
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 98488
1 + 2 + 4 + 8 + 13 + 26 + 52 + 104 + 947 + 1894 + 3788 + 7576 + 12311 + 24622 + 49244 + 98488 = 199080
ตัวประกอบของ 98488 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 13, 947
การแยกตัวประกอบคืออะไร

98488 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

98488 = 2 x 2 x 2 x 13 x 947
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 98488 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
98488 = 23 x 13 x 947
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 98488 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 98488 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 98488 มา 1 คู่ เช่น 2 x 49244
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 98488
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 98488 แบบที่หนึ่ง
  • 98488
    • 104
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
      • 13
    • 947

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 98488 แบบที่สอง
  • 98488
    • 2
    • 49244
      • 2
      • 24622
        • 2
        • 12311
          • 13
          • 947
ดังนั้น 98488 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
98488 = 2 x 2 x 2 x 13 x 947
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
98488 = 23 x 13 x 947 หรือ 23 x 131 x 9471

2. การแยกตัวประกอบของ 98488 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 98488 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 98488 นั้นก็คือ 2, 13, 947 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 98488

2
)98488
2
)49244
2
)24622
13
)12311
947
)947
1
ดังนั้น 98488 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
98488 = 2 x 2 x 2 x 13 x 947
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
98488 = 23 x 13 x 947 หรือ 23 x 131 x 9471

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 98488

1แยกตัวประกอบของ 98488 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 131 x 9471
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 947 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 98488 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 98488 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇