โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 96875 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 96875

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 96875 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 96875 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 5, 25, 31, 125, 155, 625, 775, 3125, 3875, 19375, 96875
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
96875 ÷ 1=96875เหลือเศษ 0
96875 ÷ 5=19375เหลือเศษ 0
96875 ÷ 25=3875เหลือเศษ 0
96875 ÷ 31=3125เหลือเศษ 0
96875 ÷ 125=775เหลือเศษ 0
96875 ÷ 155=625เหลือเศษ 0
96875 ÷ 625=155เหลือเศษ 0
96875 ÷ 775=125เหลือเศษ 0
96875 ÷ 3125=31เหลือเศษ 0
96875 ÷ 3875=25เหลือเศษ 0
96875 ÷ 19375=5เหลือเศษ 0
96875 ÷ 96875=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 96875
1 x 96875
5 x 19375
25 x 3875
31 x 3125
125 x 775
155 x 625
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 96875
1 + 5 + 25 + 31 + 125 + 155 + 625 + 775 + 3125 + 3875 + 19375 + 96875 = 124992
ตัวประกอบของ 96875 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
5, 31
การแยกตัวประกอบคืออะไร

96875 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

96875 = 5 x 5 x 5 x 5 x 5 x 31
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 96875 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
96875 = 55 x 31
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 96875 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 96875 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 96875 มา 1 คู่ เช่น 5 x 19375
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 96875
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 96875 แบบที่หนึ่ง
  • 96875
    • 155
      • 5
      • 31
    • 625
      • 25
        • 5
        • 5
      • 25
        • 5
        • 5

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 96875 แบบที่สอง
  • 96875
    • 5
    • 19375
      • 5
      • 3875
        • 5
        • 775
          • 5
          • 155
            • 5
            • 31
ดังนั้น 96875 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
96875 = 5 x 5 x 5 x 5 x 5 x 31
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
96875 = 55 x 31 หรือ 55 x 311

2. การแยกตัวประกอบของ 96875 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 96875 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 96875 นั้นก็คือ 5, 31 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 96875

5
)96875
5
)19375
5
)3875
5
)775
5
)155
31
)31
1
ดังนั้น 96875 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
96875 = 5 x 5 x 5 x 5 x 5 x 31
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
96875 = 55 x 31 หรือ 55 x 311

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 96875

1แยกตัวประกอบของ 96875 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 55 x 311
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 5 ให้เอา 5 + 1 = 6
  • 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 6 x 2 = 12
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 96875 มีทั้งหมด 12 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 96875 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇