โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 8456 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 8456

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 8456 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 8456 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 7, 8, 14, 28, 56, 151, 302, 604, 1057, 1208, 2114, 4228, 8456
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
8456 ÷ 1=8456เหลือเศษ 0
8456 ÷ 2=4228เหลือเศษ 0
8456 ÷ 4=2114เหลือเศษ 0
8456 ÷ 7=1208เหลือเศษ 0
8456 ÷ 8=1057เหลือเศษ 0
8456 ÷ 14=604เหลือเศษ 0
8456 ÷ 28=302เหลือเศษ 0
8456 ÷ 56=151เหลือเศษ 0
8456 ÷ 151=56เหลือเศษ 0
8456 ÷ 302=28เหลือเศษ 0
8456 ÷ 604=14เหลือเศษ 0
8456 ÷ 1057=8เหลือเศษ 0
8456 ÷ 1208=7เหลือเศษ 0
8456 ÷ 2114=4เหลือเศษ 0
8456 ÷ 4228=2เหลือเศษ 0
8456 ÷ 8456=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 8456
1 x 8456
2 x 4228
4 x 2114
7 x 1208
8 x 1057
14 x 604
28 x 302
56 x 151
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 8456
1 + 2 + 4 + 7 + 8 + 14 + 28 + 56 + 151 + 302 + 604 + 1057 + 1208 + 2114 + 4228 + 8456 = 18240
ตัวประกอบของ 8456 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 151
การแยกตัวประกอบคืออะไร

8456 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

8456 = 2 x 2 x 2 x 7 x 151
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 8456 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
8456 = 23 x 7 x 151
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 8456 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 8456 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 8456 มา 1 คู่ เช่น 2 x 4228
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8456
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8456 แบบที่หนึ่ง
  • 8456
    • 56
      • 7
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
    • 151

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8456 แบบที่สอง
  • 8456
    • 2
    • 4228
      • 2
      • 2114
        • 2
        • 1057
          • 7
          • 151
ดังนั้น 8456 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8456 = 2 x 2 x 2 x 7 x 151
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
8456 = 23 x 7 x 151 หรือ 23 x 71 x 1511

2. การแยกตัวประกอบของ 8456 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 8456 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8456 นั้นก็คือ 2, 7, 151 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8456

2
)8456
2
)4228
2
)2114
7
)1057
151
)151
1
ดังนั้น 8456 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8456 = 2 x 2 x 2 x 7 x 151
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
8456 = 23 x 7 x 151 หรือ 23 x 71 x 1511

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 8456

1แยกตัวประกอบของ 8456 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 71 x 1511
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 151 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8456 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 8456 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇