ตัวประกอบของ 7102 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 7102
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 7102 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 7102 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 7102 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 7102 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 7102 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 53, 67, 106, 134, 3551, 7102
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
7102 ÷ 1 | = | 7102 | เหลือเศษ 0 |
7102 ÷ 2 | = | 3551 | เหลือเศษ 0 |
7102 ÷ 53 | = | 134 | เหลือเศษ 0 |
7102 ÷ 67 | = | 106 | เหลือเศษ 0 |
7102 ÷ 106 | = | 67 | เหลือเศษ 0 |
7102 ÷ 134 | = | 53 | เหลือเศษ 0 |
7102 ÷ 3551 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
7102 ÷ 7102 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 7102
1 x 7102 | = | 7102 |
2 x 3551 | = | 7102 |
53 x 134 | = | 7102 |
67 x 106 | = | 7102 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 7102
1 + 2 + 53 + 67 + 106 + 134 + 3551 + 7102 = 11016
▶ ตัวประกอบของ 7102 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 53, 67
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 7102 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
7102 = 2 x 53 x 67
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 7102 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 7102 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 7102 มา 1 คู่ เช่น 2 x 3551
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 7102
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 7102 แบบที่หนึ่ง
- 7102
- 67
- 106
- 2
- 53
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 7102 แบบที่สอง
- 7102
- 2
- 3551
- 53
- 67
ดังนั้น 7102 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
7102 =
2 x 53 x 67
2. การแยกตัวประกอบของ 7102 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 7102 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 7102 นั้นก็คือ 2, 53, 67 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 7102
2)710253)355167)671ดังนั้น 7102 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้7102 = 2 x 53 x 67วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 7102
1แยกตัวประกอบของ 7102 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 531 x 6712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 53 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 67 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 7102 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 7102 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 7102 นั้นก็คือ 2, 53, 67 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 7102
2
)7102
53
)3551
67
)67
1
ดังนั้น 7102 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
7102 = 2 x 53 x 67
1แยกตัวประกอบของ 7102 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 531 x 671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 53 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 67 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 7102 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 7102 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇