ตัวประกอบของ 68654 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68654
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 68654 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 68654 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 68654 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 68654 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 68654 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 2, 34327, 68654
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 68654 ÷ 1 | = | 68654 | เหลือเศษ 0 |
| 68654 ÷ 2 | = | 34327 | เหลือเศษ 0 |
| 68654 ÷ 34327 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 68654 ÷ 68654 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68654
| 1 x 68654 | = | 68654 |
| 2 x 34327 | = | 68654 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68654
1 + 2 + 34327 + 68654 = 102984
▶ ตัวประกอบของ 68654 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 34327
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 68654 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68654 = 2 x 34327
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 68654 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68654 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68654 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34327
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68654
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68654
- 68654
- 2
- 34327
ดังนั้น 68654 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68654 =
2 x 34327
2. การแยกตัวประกอบของ 68654 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 68654 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68654 นั้นก็คือ 2, 34327 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68654
2)6865434327)343271ดังนั้น 68654 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้68654 = 2 x 34327วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68654
1แยกตัวประกอบของ 68654 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 3432712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 34327 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68654 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 68654 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68654 นั้นก็คือ 2, 34327 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68654
2
)68654
34327
)34327
1
ดังนั้น 68654 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68654 = 2 x 34327
1แยกตัวประกอบของ 68654 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 343271
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 34327 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68654 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68654 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇