ตัวประกอบของ 5649 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5649
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5649 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5649 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5649 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5649 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5649 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 7, 21, 269, 807, 1883, 5649
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 5649 ÷ 1 | = | 5649 | เหลือเศษ 0 |
| 5649 ÷ 3 | = | 1883 | เหลือเศษ 0 |
| 5649 ÷ 7 | = | 807 | เหลือเศษ 0 |
| 5649 ÷ 21 | = | 269 | เหลือเศษ 0 |
| 5649 ÷ 269 | = | 21 | เหลือเศษ 0 |
| 5649 ÷ 807 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
| 5649 ÷ 1883 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 5649 ÷ 5649 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5649
| 1 x 5649 | = | 5649 |
| 3 x 1883 | = | 5649 |
| 7 x 807 | = | 5649 |
| 21 x 269 | = | 5649 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5649
1 + 3 + 7 + 21 + 269 + 807 + 1883 + 5649 = 8640
▶ ตัวประกอบของ 5649 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 7, 269
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5649 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5649 = 3 x 7 x 269
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5649 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5649 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5649 มา 1 คู่ เช่น 3 x 1883
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5649
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5649 แบบที่หนึ่ง
- 5649
- 21
- 3
- 7
- 269
- 21
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5649 แบบที่สอง
- 5649
- 3
- 1883
- 7
- 269
ดังนั้น 5649 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5649 =
3 x 7 x 269
2. การแยกตัวประกอบของ 5649 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5649 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5649 นั้นก็คือ 3, 7, 269 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5649
3)56497)1883269)2691ดังนั้น 5649 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5649 = 3 x 7 x 269วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5649
1แยกตัวประกอบของ 5649 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 71 x 26912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 269 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5649 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5649 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5649 นั้นก็คือ 3, 7, 269 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5649
3
)5649
7
)1883
269
)269
1
ดังนั้น 5649 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5649 = 3 x 7 x 269
1แยกตัวประกอบของ 5649 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 71 x 2691
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 269 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5649 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5649 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇