โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 4100 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 4100

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 4100 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 4100 มีทั้งหมด 18 ตัวคือ 1, 2, 4, 5, 10, 20, 25, 41, 50, 82, 100, 164, 205, 410, 820, 1025, 2050, 4100
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
4100 ÷ 1=4100เหลือเศษ 0
4100 ÷ 2=2050เหลือเศษ 0
4100 ÷ 4=1025เหลือเศษ 0
4100 ÷ 5=820เหลือเศษ 0
4100 ÷ 10=410เหลือเศษ 0
4100 ÷ 20=205เหลือเศษ 0
4100 ÷ 25=164เหลือเศษ 0
4100 ÷ 41=100เหลือเศษ 0
4100 ÷ 50=82เหลือเศษ 0
4100 ÷ 82=50เหลือเศษ 0
4100 ÷ 100=41เหลือเศษ 0
4100 ÷ 164=25เหลือเศษ 0
4100 ÷ 205=20เหลือเศษ 0
4100 ÷ 410=10เหลือเศษ 0
4100 ÷ 820=5เหลือเศษ 0
4100 ÷ 1025=4เหลือเศษ 0
4100 ÷ 2050=2เหลือเศษ 0
4100 ÷ 4100=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 4100
1 x 4100
2 x 2050
4 x 1025
5 x 820
10 x 410
20 x 205
25 x 164
41 x 100
50 x 82
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 4100
1 + 2 + 4 + 5 + 10 + 20 + 25 + 41 + 50 + 82 + 100 + 164 + 205 + 410 + 820 + 1025 + 2050 + 4100 = 9114
ตัวประกอบของ 4100 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 41
การแยกตัวประกอบคืออะไร

4100 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

4100 = 2 x 2 x 5 x 5 x 41
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 4100 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
4100 = 22 x 52 x 41
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 4100 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 4100 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 4100 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2050
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4100
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4100 แบบที่หนึ่ง
  • 4100
    • 50
      • 5
      • 10
        • 2
        • 5
    • 82
      • 2
      • 41

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4100 แบบที่สอง
  • 4100
    • 2
    • 2050
      • 2
      • 1025
        • 5
        • 205
          • 5
          • 41
ดังนั้น 4100 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4100 = 2 x 2 x 5 x 5 x 41
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
4100 = 22 x 52 x 41 หรือ 22 x 52 x 411

2. การแยกตัวประกอบของ 4100 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 4100 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4100 นั้นก็คือ 2, 5, 41 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4100

2
)4100
2
)2050
5
)1025
5
)205
41
)41
1
ดังนั้น 4100 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4100 = 2 x 2 x 5 x 5 x 41
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
4100 = 22 x 52 x 41 หรือ 22 x 52 x 411

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 4100

1แยกตัวประกอบของ 4100 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 52 x 411
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 41 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 3 x 2 = 18
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4100 มีทั้งหมด 18 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 4100 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇