ตัวประกอบของ 3047 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 3047
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 3047 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 3047 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 3047 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 3047 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 3047 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 11, 277, 3047
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 3047 ÷ 1 | = | 3047 | เหลือเศษ 0 |
| 3047 ÷ 11 | = | 277 | เหลือเศษ 0 |
| 3047 ÷ 277 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
| 3047 ÷ 3047 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 3047
| 1 x 3047 | = | 3047 |
| 11 x 277 | = | 3047 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 3047
1 + 11 + 277 + 3047 = 3336
▶ ตัวประกอบของ 3047 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
11, 277
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 3047 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3047 = 11 x 277
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 3047 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 3047 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 3047 มา 1 คู่ เช่น 11 x 277
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3047
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3047
- 3047
- 11
- 277
ดังนั้น 3047 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3047 =
11 x 277
2. การแยกตัวประกอบของ 3047 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 3047 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3047 นั้นก็คือ 11, 277 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3047
11)3047277)2771ดังนั้น 3047 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้3047 = 11 x 277วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 3047
1แยกตัวประกอบของ 3047 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 111 x 27712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 277 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3047 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 3047 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3047 นั้นก็คือ 11, 277 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3047
11
)3047
277
)277
1
ดังนั้น 3047 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3047 = 11 x 277
1แยกตัวประกอบของ 3047 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 111 x 2771
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 277 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3047 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 3047 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇