ตัวประกอบของ 26042 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26042
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26042 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26042 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 26042 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26042 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26042 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 29, 58, 449, 898, 13021, 26042
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26042 ÷ 1 | = | 26042 | เหลือเศษ 0 |
| 26042 ÷ 2 | = | 13021 | เหลือเศษ 0 |
| 26042 ÷ 29 | = | 898 | เหลือเศษ 0 |
| 26042 ÷ 58 | = | 449 | เหลือเศษ 0 |
| 26042 ÷ 449 | = | 58 | เหลือเศษ 0 |
| 26042 ÷ 898 | = | 29 | เหลือเศษ 0 |
| 26042 ÷ 13021 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 26042 ÷ 26042 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26042
| 1 x 26042 | = | 26042 |
| 2 x 13021 | = | 26042 |
| 29 x 898 | = | 26042 |
| 58 x 449 | = | 26042 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26042
1 + 2 + 29 + 58 + 449 + 898 + 13021 + 26042 = 40500
▶ ตัวประกอบของ 26042 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 29, 449
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26042 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26042 = 2 x 29 x 449
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26042 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26042 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26042 มา 1 คู่ เช่น 2 x 13021
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26042
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26042 แบบที่หนึ่ง
- 26042
- 58
- 2
- 29
- 449
- 58
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26042 แบบที่สอง
- 26042
- 2
- 13021
- 29
- 449
ดังนั้น 26042 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26042 =
2 x 29 x 449
2. การแยกตัวประกอบของ 26042 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26042 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26042 นั้นก็คือ 2, 29, 449 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26042
2)2604229)13021449)4491ดังนั้น 26042 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26042 = 2 x 29 x 449วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26042
1แยกตัวประกอบของ 26042 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 291 x 44912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 449 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26042 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26042 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26042 นั้นก็คือ 2, 29, 449 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26042
2
)26042
29
)13021
449
)449
1
ดังนั้น 26042 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26042 = 2 x 29 x 449
1แยกตัวประกอบของ 26042 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 291 x 4491
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 449 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26042 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26042 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
