โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 26040 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26040

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 26040 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 26040 มีทั้งหมด 64 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 10, 12, 14, 15, 20, 21, 24, 28, 30, 31, 35, 40, 42, 56, 60, 62, 70, 84, 93, 105, 120, 124, 140, 155, 168, 186, 210, 217, 248, 280, 310, 372, 420, 434, 465, 620, 651, 744, 840, 868, 930, 1085, 1240, 1302, 1736, 1860, 2170, 2604, 3255, 3720, 4340, 5208, 6510, 8680, 13020, 26040
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
26040 ÷ 1=26040เหลือเศษ 0
26040 ÷ 2=13020เหลือเศษ 0
26040 ÷ 3=8680เหลือเศษ 0
26040 ÷ 4=6510เหลือเศษ 0
26040 ÷ 5=5208เหลือเศษ 0
26040 ÷ 6=4340เหลือเศษ 0
26040 ÷ 7=3720เหลือเศษ 0
26040 ÷ 8=3255เหลือเศษ 0
26040 ÷ 10=2604เหลือเศษ 0
26040 ÷ 12=2170เหลือเศษ 0
26040 ÷ 14=1860เหลือเศษ 0
26040 ÷ 15=1736เหลือเศษ 0
26040 ÷ 20=1302เหลือเศษ 0
26040 ÷ 21=1240เหลือเศษ 0
26040 ÷ 24=1085เหลือเศษ 0
26040 ÷ 28=930เหลือเศษ 0
26040 ÷ 30=868เหลือเศษ 0
26040 ÷ 31=840เหลือเศษ 0
26040 ÷ 35=744เหลือเศษ 0
26040 ÷ 40=651เหลือเศษ 0
26040 ÷ 42=620เหลือเศษ 0
26040 ÷ 56=465เหลือเศษ 0
26040 ÷ 60=434เหลือเศษ 0
26040 ÷ 62=420เหลือเศษ 0
26040 ÷ 70=372เหลือเศษ 0
26040 ÷ 84=310เหลือเศษ 0
26040 ÷ 93=280เหลือเศษ 0
26040 ÷ 105=248เหลือเศษ 0
26040 ÷ 120=217เหลือเศษ 0
26040 ÷ 124=210เหลือเศษ 0
26040 ÷ 140=186เหลือเศษ 0
26040 ÷ 155=168เหลือเศษ 0
26040 ÷ 168=155เหลือเศษ 0
26040 ÷ 186=140เหลือเศษ 0
26040 ÷ 210=124เหลือเศษ 0
26040 ÷ 217=120เหลือเศษ 0
26040 ÷ 248=105เหลือเศษ 0
26040 ÷ 280=93เหลือเศษ 0
26040 ÷ 310=84เหลือเศษ 0
26040 ÷ 372=70เหลือเศษ 0
26040 ÷ 420=62เหลือเศษ 0
26040 ÷ 434=60เหลือเศษ 0
26040 ÷ 465=56เหลือเศษ 0
26040 ÷ 620=42เหลือเศษ 0
26040 ÷ 651=40เหลือเศษ 0
26040 ÷ 744=35เหลือเศษ 0
26040 ÷ 840=31เหลือเศษ 0
26040 ÷ 868=30เหลือเศษ 0
26040 ÷ 930=28เหลือเศษ 0
26040 ÷ 1085=24เหลือเศษ 0
26040 ÷ 1240=21เหลือเศษ 0
26040 ÷ 1302=20เหลือเศษ 0
26040 ÷ 1736=15เหลือเศษ 0
26040 ÷ 1860=14เหลือเศษ 0
26040 ÷ 2170=12เหลือเศษ 0
26040 ÷ 2604=10เหลือเศษ 0
26040 ÷ 3255=8เหลือเศษ 0
26040 ÷ 3720=7เหลือเศษ 0
26040 ÷ 4340=6เหลือเศษ 0
26040 ÷ 5208=5เหลือเศษ 0
26040 ÷ 6510=4เหลือเศษ 0
26040 ÷ 8680=3เหลือเศษ 0
26040 ÷ 13020=2เหลือเศษ 0
26040 ÷ 26040=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26040
1 x 26040
2 x 13020
3 x 8680
4 x 6510
5 x 5208
6 x 4340
7 x 3720
8 x 3255
10 x 2604
12 x 2170
14 x 1860
15 x 1736
20 x 1302
21 x 1240
24 x 1085
28 x 930
30 x 868
31 x 840
35 x 744
40 x 651
42 x 620
56 x 465
60 x 434
62 x 420
70 x 372
84 x 310
93 x 280
105 x 248
120 x 217
124 x 210
140 x 186
155 x 168
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26040
1 + 2 + 3 + 4 + 5 + 6 + 7 + 8 + 10 + 12 + 14 + 15 + 20 + 21 + 24 + 28 + 30 + 31 + 35 + 40 + 42 + 56 + 60 + 62 + 70 + 84 + 93 + 105 + 120 + 124 + 140 + 155 + 168 + 186 + 210 + 217 + 248 + 280 + 310 + 372 + 420 + 434 + 465 + 620 + 651 + 744 + 840 + 868 + 930 + 1085 + 1240 + 1302 + 1736 + 1860 + 2170 + 2604 + 3255 + 3720 + 4340 + 5208 + 6510 + 8680 + 13020 + 26040 = 92160
ตัวประกอบของ 26040 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 5 ตัวดังนี้
2, 3, 5, 7, 31
การแยกตัวประกอบคืออะไร

26040 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

26040 = 2 x 2 x 2 x 3 x 5 x 7 x 31
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26040 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26040 = 23 x 3 x 5 x 7 x 31
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 26040 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26040 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26040 มา 1 คู่ เช่น 2 x 13020
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26040
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26040 แบบที่หนึ่ง
  • 26040
    • 155
      • 5
      • 31
    • 168
      • 12
        • 3
        • 4
          • 2
          • 2
      • 14
        • 2
        • 7

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26040 แบบที่สอง
  • 26040
    • 2
    • 13020
      • 2
      • 6510
        • 2
        • 3255
          • 3
          • 1085
            • 5
            • 217
              • 7
              • 31
ดังนั้น 26040 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26040 = 2 x 2 x 2 x 3 x 5 x 7 x 31
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26040 = 23 x 3 x 5 x 7 x 31 หรือ 23 x 31 x 51 x 71 x 311

2. การแยกตัวประกอบของ 26040 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 26040 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26040 นั้นก็คือ 2, 3, 5, 7, 31 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26040

2
)26040
2
)13020
2
)6510
3
)3255
5
)1085
7
)217
31
)31
1
ดังนั้น 26040 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26040 = 2 x 2 x 2 x 3 x 5 x 7 x 31
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26040 = 23 x 3 x 5 x 7 x 31 หรือ 23 x 31 x 51 x 71 x 311

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26040

1แยกตัวประกอบของ 26040 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 31 x 51 x 71 x 311
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 x 2 x 2 = 64
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26040 มีทั้งหมด 64 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26040 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇