ตัวประกอบของ 26038 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26038
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26038 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26038 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 26038 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26038 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26038 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 47, 94, 277, 554, 13019, 26038
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26038 ÷ 1 | = | 26038 | เหลือเศษ 0 |
| 26038 ÷ 2 | = | 13019 | เหลือเศษ 0 |
| 26038 ÷ 47 | = | 554 | เหลือเศษ 0 |
| 26038 ÷ 94 | = | 277 | เหลือเศษ 0 |
| 26038 ÷ 277 | = | 94 | เหลือเศษ 0 |
| 26038 ÷ 554 | = | 47 | เหลือเศษ 0 |
| 26038 ÷ 13019 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 26038 ÷ 26038 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26038
| 1 x 26038 | = | 26038 |
| 2 x 13019 | = | 26038 |
| 47 x 554 | = | 26038 |
| 94 x 277 | = | 26038 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26038
1 + 2 + 47 + 94 + 277 + 554 + 13019 + 26038 = 40032
▶ ตัวประกอบของ 26038 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 47, 277
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26038 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26038 = 2 x 47 x 277
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26038 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26038 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26038 มา 1 คู่ เช่น 2 x 13019
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26038
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26038 แบบที่หนึ่ง
- 26038
- 94
- 2
- 47
- 277
- 94
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26038 แบบที่สอง
- 26038
- 2
- 13019
- 47
- 277
ดังนั้น 26038 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26038 =
2 x 47 x 277
2. การแยกตัวประกอบของ 26038 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26038 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26038 นั้นก็คือ 2, 47, 277 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26038
2)2603847)13019277)2771ดังนั้น 26038 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26038 = 2 x 47 x 277วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26038
1แยกตัวประกอบของ 26038 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 471 x 27712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 277 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26038 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26038 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26038 นั้นก็คือ 2, 47, 277 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26038
2
)26038
47
)13019
277
)277
1
ดังนั้น 26038 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26038 = 2 x 47 x 277
1แยกตัวประกอบของ 26038 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 471 x 2771
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 277 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26038 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26038 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
