ตัวประกอบของ 26032 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26032
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26032 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26032 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 26032 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26032 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26032 มีทั้งหมด 10 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 16, 1627, 3254, 6508, 13016, 26032
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26032 ÷ 1 | = | 26032 | เหลือเศษ 0 |
| 26032 ÷ 2 | = | 13016 | เหลือเศษ 0 |
| 26032 ÷ 4 | = | 6508 | เหลือเศษ 0 |
| 26032 ÷ 8 | = | 3254 | เหลือเศษ 0 |
| 26032 ÷ 16 | = | 1627 | เหลือเศษ 0 |
| 26032 ÷ 1627 | = | 16 | เหลือเศษ 0 |
| 26032 ÷ 3254 | = | 8 | เหลือเศษ 0 |
| 26032 ÷ 6508 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
| 26032 ÷ 13016 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 26032 ÷ 26032 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26032
| 1 x 26032 | = | 26032 |
| 2 x 13016 | = | 26032 |
| 4 x 6508 | = | 26032 |
| 8 x 3254 | = | 26032 |
| 16 x 1627 | = | 26032 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26032
1 + 2 + 4 + 8 + 16 + 1627 + 3254 + 6508 + 13016 + 26032 = 50468
▶ ตัวประกอบของ 26032 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 1627
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26032 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26032 = 2 x 2 x 2 x 2 x 1627
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26032 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26032 = 24 x 1627
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26032 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26032 = 24 x 1627
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26032 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26032 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26032 มา 1 คู่ เช่น 2 x 13016
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26032
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26032 แบบที่หนึ่ง
- 26032
- 16
- 4
- 2
- 2
- 4
- 2
- 2
- 4
- 1627
- 16
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26032 แบบที่สอง
- 26032
- 2
- 13016
- 2
- 6508
- 2
- 3254
- 2
- 1627
ดังนั้น 26032 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26032 =
2 x 2 x 2 x 2 x 1627
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26032 =
24 x 1627 หรือ 24 x 16271
2. การแยกตัวประกอบของ 26032 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26032 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26032 นั้นก็คือ 2, 1627 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26032
2)260322)130162)65082)32541627)16271ดังนั้น 26032 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26032 = 2 x 2 x 2 x 2 x 1627หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง26032 = 24 x 1627 หรือ 24 x 16271วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26032
1แยกตัวประกอบของ 26032 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 24 x 162712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 4 ให้เอา 4 + 1 = 5
- 👉 1627 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 5 x 2 = 10✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26032 มีทั้งหมด 10 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26032 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26032 นั้นก็คือ 2, 1627 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26032
2
)26032
2
)13016
2
)6508
2
)3254
1627
)1627
1
ดังนั้น 26032 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26032 = 2 x 2 x 2 x 2 x 1627
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26032 = 24 x 1627 หรือ 24 x 16271
1แยกตัวประกอบของ 26032 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 24 x 16271
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 4 ให้เอา 4 + 1 = 5
- 👉 1627 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 5 x 2 = 10✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26032 มีทั้งหมด 10 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26032 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
