โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 26022 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26022

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 26022 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 26022 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 4337, 8674, 13011, 26022
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
26022 ÷ 1=26022เหลือเศษ 0
26022 ÷ 2=13011เหลือเศษ 0
26022 ÷ 3=8674เหลือเศษ 0
26022 ÷ 6=4337เหลือเศษ 0
26022 ÷ 4337=6เหลือเศษ 0
26022 ÷ 8674=3เหลือเศษ 0
26022 ÷ 13011=2เหลือเศษ 0
26022 ÷ 26022=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26022
1 x 26022
2 x 13011
3 x 8674
6 x 4337
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26022
1 + 2 + 3 + 6 + 4337 + 8674 + 13011 + 26022 = 52056
ตัวประกอบของ 26022 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 4337
การแยกตัวประกอบคืออะไร

26022 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

26022 = 2 x 3 x 4337
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 26022 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26022 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26022 มา 1 คู่ เช่น 2 x 13011
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26022
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26022 แบบที่หนึ่ง
  • 26022
    • 6
      • 2
      • 3
    • 4337

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26022 แบบที่สอง
  • 26022
    • 2
    • 13011
      • 3
      • 4337
ดังนั้น 26022 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26022 = 2 x 3 x 4337

2. การแยกตัวประกอบของ 26022 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 26022 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26022 นั้นก็คือ 2, 3, 4337 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26022

2
)26022
3
)13011
4337
)4337
1
ดังนั้น 26022 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26022 = 2 x 3 x 4337

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26022

1แยกตัวประกอบของ 26022 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 43371
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 4337 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26022 มีทั้งหมด 8 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26022 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇