ตัวประกอบของ 25507 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25507
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25507 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25507 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 25507 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25507 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25507 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 23, 1109, 25507
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 25507 ÷ 1 | = | 25507 | เหลือเศษ 0 |
| 25507 ÷ 23 | = | 1109 | เหลือเศษ 0 |
| 25507 ÷ 1109 | = | 23 | เหลือเศษ 0 |
| 25507 ÷ 25507 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25507
| 1 x 25507 | = | 25507 |
| 23 x 1109 | = | 25507 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25507
1 + 23 + 1109 + 25507 = 26640
▶ ตัวประกอบของ 25507 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
23, 1109
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25507 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25507 = 23 x 1109
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25507 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25507 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25507 มา 1 คู่ เช่น 23 x 1109
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25507
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25507
- 25507
- 23
- 1109
ดังนั้น 25507 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25507 =
23 x 1109
2. การแยกตัวประกอบของ 25507 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25507 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25507 นั้นก็คือ 23, 1109 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25507
23)255071109)11091ดังนั้น 25507 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25507 = 23 x 1109วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25507
1แยกตัวประกอบของ 25507 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 231 x 110912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1109 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25507 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25507 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25507 นั้นก็คือ 23, 1109 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25507
23
)25507
1109
)1109
1
ดังนั้น 25507 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25507 = 23 x 1109
1แยกตัวประกอบของ 25507 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 231 x 11091
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1109 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25507 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25507 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇