ตัวประกอบของ 23510 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 23510
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 23510 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 23510 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 23510 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 23510 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 23510 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 5, 10, 2351, 4702, 11755, 23510
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
23510 ÷ 1 | = | 23510 | เหลือเศษ 0 |
23510 ÷ 2 | = | 11755 | เหลือเศษ 0 |
23510 ÷ 5 | = | 4702 | เหลือเศษ 0 |
23510 ÷ 10 | = | 2351 | เหลือเศษ 0 |
23510 ÷ 2351 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
23510 ÷ 4702 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
23510 ÷ 11755 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
23510 ÷ 23510 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 23510
1 x 23510 | = | 23510 |
2 x 11755 | = | 23510 |
5 x 4702 | = | 23510 |
10 x 2351 | = | 23510 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 23510
1 + 2 + 5 + 10 + 2351 + 4702 + 11755 + 23510 = 42336
▶ ตัวประกอบของ 23510 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 2351
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 23510 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23510 = 2 x 5 x 2351
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 23510 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 23510 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 23510 มา 1 คู่ เช่น 2 x 11755
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23510
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 23510 แบบที่หนึ่ง
- 23510
- 10
- 2
- 5
- 2351
- 10
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 23510 แบบที่สอง
- 23510
- 2
- 11755
- 5
- 2351
ดังนั้น 23510 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23510 =
2 x 5 x 2351
2. การแยกตัวประกอบของ 23510 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 23510 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 23510 นั้นก็คือ 2, 5, 2351 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23510
2)235105)117552351)23511ดังนั้น 23510 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้23510 = 2 x 5 x 2351วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 23510
1แยกตัวประกอบของ 23510 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 51 x 235112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2351 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 23510 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 23510 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 23510 นั้นก็คือ 2, 5, 2351 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23510
2
)23510
5
)11755
2351
)2351
1
ดังนั้น 23510 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23510 = 2 x 5 x 2351
1แยกตัวประกอบของ 23510 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 51 x 23511
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2351 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 23510 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 23510 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇