โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 23517 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 23517

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 23517 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 23517 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 3, 9, 13, 27, 39, 67, 117, 201, 351, 603, 871, 1809, 2613, 7839, 23517
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
23517 ÷ 1=23517เหลือเศษ 0
23517 ÷ 3=7839เหลือเศษ 0
23517 ÷ 9=2613เหลือเศษ 0
23517 ÷ 13=1809เหลือเศษ 0
23517 ÷ 27=871เหลือเศษ 0
23517 ÷ 39=603เหลือเศษ 0
23517 ÷ 67=351เหลือเศษ 0
23517 ÷ 117=201เหลือเศษ 0
23517 ÷ 201=117เหลือเศษ 0
23517 ÷ 351=67เหลือเศษ 0
23517 ÷ 603=39เหลือเศษ 0
23517 ÷ 871=27เหลือเศษ 0
23517 ÷ 1809=13เหลือเศษ 0
23517 ÷ 2613=9เหลือเศษ 0
23517 ÷ 7839=3เหลือเศษ 0
23517 ÷ 23517=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 23517
1 x 23517
3 x 7839
9 x 2613
13 x 1809
27 x 871
39 x 603
67 x 351
117 x 201
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 23517
1 + 3 + 9 + 13 + 27 + 39 + 67 + 117 + 201 + 351 + 603 + 871 + 1809 + 2613 + 7839 + 23517 = 38080
ตัวประกอบของ 23517 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 13, 67
การแยกตัวประกอบคืออะไร

23517 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

23517 = 3 x 3 x 3 x 13 x 67
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 23517 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
23517 = 33 x 13 x 67
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 23517 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 23517 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 23517 มา 1 คู่ เช่น 3 x 7839
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23517
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 23517 แบบที่หนึ่ง
  • 23517
    • 117
      • 9
        • 3
        • 3
      • 13
    • 201
      • 3
      • 67

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 23517 แบบที่สอง
  • 23517
    • 3
    • 7839
      • 3
      • 2613
        • 3
        • 871
          • 13
          • 67
ดังนั้น 23517 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23517 = 3 x 3 x 3 x 13 x 67
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
23517 = 33 x 13 x 67 หรือ 33 x 131 x 671

2. การแยกตัวประกอบของ 23517 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 23517 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 23517 นั้นก็คือ 3, 13, 67 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23517

3
)23517
3
)7839
3
)2613
13
)871
67
)67
1
ดังนั้น 23517 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23517 = 3 x 3 x 3 x 13 x 67
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
23517 = 33 x 13 x 67 หรือ 33 x 131 x 671

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 23517

1แยกตัวประกอบของ 23517 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 33 x 131 x 671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 67 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 23517 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 23517 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇