ตัวประกอบของ 23505 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 23505
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 23505 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 23505 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 23505 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 23505 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 23505 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 5, 15, 1567, 4701, 7835, 23505
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
23505 ÷ 1 | = | 23505 | เหลือเศษ 0 |
23505 ÷ 3 | = | 7835 | เหลือเศษ 0 |
23505 ÷ 5 | = | 4701 | เหลือเศษ 0 |
23505 ÷ 15 | = | 1567 | เหลือเศษ 0 |
23505 ÷ 1567 | = | 15 | เหลือเศษ 0 |
23505 ÷ 4701 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
23505 ÷ 7835 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
23505 ÷ 23505 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 23505
1 x 23505 | = | 23505 |
3 x 7835 | = | 23505 |
5 x 4701 | = | 23505 |
15 x 1567 | = | 23505 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 23505
1 + 3 + 5 + 15 + 1567 + 4701 + 7835 + 23505 = 37632
▶ ตัวประกอบของ 23505 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 5, 1567
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 23505 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23505 = 3 x 5 x 1567
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 23505 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 23505 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 23505 มา 1 คู่ เช่น 3 x 7835
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23505
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 23505 แบบที่หนึ่ง
- 23505
- 15
- 3
- 5
- 1567
- 15
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 23505 แบบที่สอง
- 23505
- 3
- 7835
- 5
- 1567
ดังนั้น 23505 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23505 =
3 x 5 x 1567
2. การแยกตัวประกอบของ 23505 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 23505 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 23505 นั้นก็คือ 3, 5, 1567 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23505
3)235055)78351567)15671ดังนั้น 23505 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้23505 = 3 x 5 x 1567วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 23505
1แยกตัวประกอบของ 23505 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 51 x 156712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1567 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 23505 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 23505 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 23505 นั้นก็คือ 3, 5, 1567 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23505
3
)23505
5
)7835
1567
)1567
1
ดังนั้น 23505 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23505 = 3 x 5 x 1567
1แยกตัวประกอบของ 23505 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 51 x 15671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1567 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 23505 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 23505 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇