ตัวประกอบของ 23496 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 23496
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 23496 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 23496 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 23496 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 23496 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 23496 มีทั้งหมด 32 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 8, 11, 12, 22, 24, 33, 44, 66, 88, 89, 132, 178, 264, 267, 356, 534, 712, 979, 1068, 1958, 2136, 2937, 3916, 5874, 7832, 11748, 23496
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
23496 ÷ 1 | = | 23496 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 2 | = | 11748 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 3 | = | 7832 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 4 | = | 5874 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 6 | = | 3916 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 8 | = | 2937 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 11 | = | 2136 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 12 | = | 1958 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 22 | = | 1068 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 24 | = | 979 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 33 | = | 712 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 44 | = | 534 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 66 | = | 356 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 88 | = | 267 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 89 | = | 264 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 132 | = | 178 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 178 | = | 132 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 264 | = | 89 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 267 | = | 88 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 356 | = | 66 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 534 | = | 44 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 712 | = | 33 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 979 | = | 24 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 1068 | = | 22 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 1958 | = | 12 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 2136 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 2937 | = | 8 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 3916 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 5874 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 7832 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 11748 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
23496 ÷ 23496 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 23496
1 x 23496 | = | 23496 |
2 x 11748 | = | 23496 |
3 x 7832 | = | 23496 |
4 x 5874 | = | 23496 |
6 x 3916 | = | 23496 |
8 x 2937 | = | 23496 |
11 x 2136 | = | 23496 |
12 x 1958 | = | 23496 |
22 x 1068 | = | 23496 |
24 x 979 | = | 23496 |
33 x 712 | = | 23496 |
44 x 534 | = | 23496 |
66 x 356 | = | 23496 |
88 x 267 | = | 23496 |
89 x 264 | = | 23496 |
132 x 178 | = | 23496 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 23496
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 8 + 11 + 12 + 22 + 24 + 33 + 44 + 66 + 88 + 89 + 132 + 178 + 264 + 267 + 356 + 534 + 712 + 979 + 1068 + 1958 + 2136 + 2937 + 3916 + 5874 + 7832 + 11748 + 23496 = 64800
▶ ตัวประกอบของ 23496 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 11, 89
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 23496 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23496 = 2 x 2 x 2 x 3 x 11 x 89
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 23496 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
23496 = 23 x 3 x 11 x 89
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 23496 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
23496 = 23 x 3 x 11 x 89
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 23496 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 23496 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 23496 มา 1 คู่ เช่น 2 x 11748
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23496
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 23496 แบบที่หนึ่ง
- 23496
- 132
- 11
- 12
- 3
- 4
- 2
- 2
- 178
- 2
- 89
- 132
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 23496 แบบที่สอง
- 23496
- 2
- 11748
- 2
- 5874
- 2
- 2937
- 3
- 979
- 11
- 89
ดังนั้น 23496 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23496 =
2 x 2 x 2 x 3 x 11 x 89
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
23496 =
23 x 3 x 11 x 89 หรือ 23 x 31 x 111 x 891
2. การแยกตัวประกอบของ 23496 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 23496 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 23496 นั้นก็คือ 2, 3, 11, 89 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23496
2)234962)117482)58743)293711)97989)891ดังนั้น 23496 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้23496 = 2 x 2 x 2 x 3 x 11 x 89หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง23496 = 23 x 3 x 11 x 89 หรือ 23 x 31 x 111 x 891วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 23496
1แยกตัวประกอบของ 23496 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 31 x 111 x 8912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 89 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 x 2 = 32✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 23496 มีทั้งหมด 32 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 23496 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 23496 นั้นก็คือ 2, 3, 11, 89 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23496
2
)23496
2
)11748
2
)5874
3
)2937
11
)979
89
)89
1
ดังนั้น 23496 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23496 = 2 x 2 x 2 x 3 x 11 x 89
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
23496 = 23 x 3 x 11 x 89 หรือ 23 x 31 x 111 x 891
1แยกตัวประกอบของ 23496 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 31 x 111 x 891
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 89 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 x 2 = 32✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 23496 มีทั้งหมด 32 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 23496 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇