โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 13144 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 13144

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 13144 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 13144 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 31, 53, 62, 106, 124, 212, 248, 424, 1643, 3286, 6572, 13144
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
13144 ÷ 1=13144เหลือเศษ 0
13144 ÷ 2=6572เหลือเศษ 0
13144 ÷ 4=3286เหลือเศษ 0
13144 ÷ 8=1643เหลือเศษ 0
13144 ÷ 31=424เหลือเศษ 0
13144 ÷ 53=248เหลือเศษ 0
13144 ÷ 62=212เหลือเศษ 0
13144 ÷ 106=124เหลือเศษ 0
13144 ÷ 124=106เหลือเศษ 0
13144 ÷ 212=62เหลือเศษ 0
13144 ÷ 248=53เหลือเศษ 0
13144 ÷ 424=31เหลือเศษ 0
13144 ÷ 1643=8เหลือเศษ 0
13144 ÷ 3286=4เหลือเศษ 0
13144 ÷ 6572=2เหลือเศษ 0
13144 ÷ 13144=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 13144
1 x 13144
2 x 6572
4 x 3286
8 x 1643
31 x 424
53 x 248
62 x 212
106 x 124
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 13144
1 + 2 + 4 + 8 + 31 + 53 + 62 + 106 + 124 + 212 + 248 + 424 + 1643 + 3286 + 6572 + 13144 = 25920
ตัวประกอบของ 13144 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 31, 53
การแยกตัวประกอบคืออะไร

13144 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

13144 = 2 x 2 x 2 x 31 x 53
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 13144 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
13144 = 23 x 31 x 53
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 13144 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 13144 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 13144 มา 1 คู่ เช่น 2 x 6572
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 13144
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 13144 แบบที่หนึ่ง
  • 13144
    • 106
      • 2
      • 53
    • 124
      • 4
        • 2
        • 2
      • 31

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 13144 แบบที่สอง
  • 13144
    • 2
    • 6572
      • 2
      • 3286
        • 2
        • 1643
          • 31
          • 53
ดังนั้น 13144 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
13144 = 2 x 2 x 2 x 31 x 53
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
13144 = 23 x 31 x 53 หรือ 23 x 311 x 531

2. การแยกตัวประกอบของ 13144 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 13144 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 13144 นั้นก็คือ 2, 31, 53 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 13144

2
)13144
2
)6572
2
)3286
31
)1643
53
)53
1
ดังนั้น 13144 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
13144 = 2 x 2 x 2 x 31 x 53
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
13144 = 23 x 31 x 53 หรือ 23 x 311 x 531

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 13144

1แยกตัวประกอบของ 13144 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 311 x 531
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 53 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 13144 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 13144 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇