โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 11956 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 11956

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 11956 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 11956 มีทั้งหมด 18 ตัวคือ 1, 2, 4, 7, 14, 28, 49, 61, 98, 122, 196, 244, 427, 854, 1708, 2989, 5978, 11956
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
11956 ÷ 1=11956เหลือเศษ 0
11956 ÷ 2=5978เหลือเศษ 0
11956 ÷ 4=2989เหลือเศษ 0
11956 ÷ 7=1708เหลือเศษ 0
11956 ÷ 14=854เหลือเศษ 0
11956 ÷ 28=427เหลือเศษ 0
11956 ÷ 49=244เหลือเศษ 0
11956 ÷ 61=196เหลือเศษ 0
11956 ÷ 98=122เหลือเศษ 0
11956 ÷ 122=98เหลือเศษ 0
11956 ÷ 196=61เหลือเศษ 0
11956 ÷ 244=49เหลือเศษ 0
11956 ÷ 427=28เหลือเศษ 0
11956 ÷ 854=14เหลือเศษ 0
11956 ÷ 1708=7เหลือเศษ 0
11956 ÷ 2989=4เหลือเศษ 0
11956 ÷ 5978=2เหลือเศษ 0
11956 ÷ 11956=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 11956
1 x 11956
2 x 5978
4 x 2989
7 x 1708
14 x 854
28 x 427
49 x 244
61 x 196
98 x 122
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 11956
1 + 2 + 4 + 7 + 14 + 28 + 49 + 61 + 98 + 122 + 196 + 244 + 427 + 854 + 1708 + 2989 + 5978 + 11956 = 24738
ตัวประกอบของ 11956 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 61
การแยกตัวประกอบคืออะไร

11956 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

11956 = 2 x 2 x 7 x 7 x 61
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 11956 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
11956 = 22 x 72 x 61
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 11956 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 11956 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 11956 มา 1 คู่ เช่น 2 x 5978
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11956
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 11956 แบบที่หนึ่ง
  • 11956
    • 98
      • 7
      • 14
        • 2
        • 7
    • 122
      • 2
      • 61

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 11956 แบบที่สอง
  • 11956
    • 2
    • 5978
      • 2
      • 2989
        • 7
        • 427
          • 7
          • 61
ดังนั้น 11956 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11956 = 2 x 2 x 7 x 7 x 61
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
11956 = 22 x 72 x 61 หรือ 22 x 72 x 611

2. การแยกตัวประกอบของ 11956 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 11956 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 11956 นั้นก็คือ 2, 7, 61 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11956

2
)11956
2
)5978
7
)2989
7
)427
61
)61
1
ดังนั้น 11956 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11956 = 2 x 2 x 7 x 7 x 61
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
11956 = 22 x 72 x 61 หรือ 22 x 72 x 611

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 11956

1แยกตัวประกอบของ 11956 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 72 x 611
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 61 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 3 x 2 = 18
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 11956 มีทั้งหมด 18 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 11956 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇